เตือน! ดื่มกาแฟเกินวันละ 2 แก้ว เสี่ยงท้องยาก และแท้งบุตร

กาแฟ เป็นที่เครื่องดื่มที่โปรดปรานของใครหลายๆ คน แม้จะมีงานวิจัยหลากหลายฉบับที่ออกมารายงานถึงประโยชน์ของ “คาเฟอีน” ในกาแฟ ที่นอกจากจะปลุก 

 1529 views


กาแฟ เป็นที่เครื่องดื่มที่โปรดปรานของใครหลายๆ คน แม้จะมีงานวิจัยหลากหลายฉบับที่ออกมารายงานถึงประโยชน์ของ “คาเฟอีน” ในกาแฟ ที่นอกจากจะปลุกความตื่นตัวแล้ว ยังช่วยให้การทำงานของระบบการหมุนเวียนของเลือดดีขึ้น มีสารต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ขณะเดียวกันหากดื่มในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการติดกาแฟ กระสับกระส่าย วิตกกังวล นอนไม่หลับ หัวใจเต้นเร็ว ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน  อย่างไรก็ตามยังมีงานวิจัยหลายฉบับชี้ว่า ผู้หญิงที่ติดกาแฟ ดื่มกาแฟมาก เกินไป หรือ ดื่มกาแฟเกินวันละ 2 แก้ว เสี่ยงท้องยาก และแท้งบุตรสูงกว่าผู้หญิงทั่วไปที่ไม่ดื่มกาแฟ


ดื่มกาแฟเกินวันละ 2 แก้ว

ครูก้อย นัชชา ลอยชูศักดิ์ กรรมการ บริษัท เบบี้แอนด์มัม (ประเทศไทย) จำกัด และครูวิทยาศาสตร์ผู้ก่อตั้งเพจให้ความรู้ผู้มีบุตรยาก babyandmom.co.th  เผยว่า ปัจจุบันแนวโน้มผู้มีบุตรยากมีสูงขึ้น ซึ่งมีปัจจัยมาจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ผู้หญิงเป็นเวิร์คกิ้งวูแมนมากขึ้น ทุ่มเทกับการทำงานและความสำเร็จจึงทำให้แต่งงานช้า ความเครียดจากการทำงาน ไลฟ์สไตล์ รวมถึงสิ่งแวดล้อม สภาพเศรษฐกิจและสังคม โรคระบาด ทำให้ชะลอการมีบุตรออกไป ยิ่งอายุมาก ยิ่งมีบุตรยาก นอกจากนี้การทานอาหารที่ไม่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ รวมถึงการดื่มกาแฟทุกวันส่งผลให้มีบุตรยากเช่นกัน 

ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ให้คำแนะนำว่าหากผู้หญิงทานกาแฟมากเกินไป โดยมากกว่า 300 มิลลิกรัมต่อวัน ควรลดการบริโภคคาเฟอีนลง เพราะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ การคลอดก่อนกำหนด และการแท้งบุตร

นอกจากนี้การดื่มกาแฟที่ใส่นม น้ำตาล ครีม ยังทำให้ร่างกายได้รับคอเลสเตอรอลสูงเกินปกติได้ อ้วนง่าย โดยมีงานวิจัยศึกษาผู้หญิงที่มีภาวะอ้วน น้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน (BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 25) ส่งผลให้ไข่ไม่ตก ประจำเดือนมาไม่ปกติ เซลล์ไข่ด้อยคุณภาพ ฮอร์โมนไม่สมดุล หากใช้กระบวนการทางการแพทย์รักษาจะมีอัตราความสำเร็จต่ำกว่ากลุ่มที่น้ำหนักปกติ ยิ่งถ้าค่า BMI อยู่ในระดับ 30 ส่งผลต่อการแท้งบุตรมากขึ้นอีกด้วย และมีงานวิจัยพบว่าคนอ้วนฮอร์โมนจะไม่สมดุล ก่อให้เกิด PCOS “ภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง “เซลล์ไข่ด้อยคุณภาพ ท้องยากกว่าคนน้ำหนักปกติถึง 2 เท่า



ดื่มกาแฟเกินวันละ 2 แก้ว

ดังนั้นผู้หญิงที่เตรียมตั้งครรภ์ที่ติดกาแฟ ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มกาแฟ โดยการลดปริมาณกาแฟที่ดื่มไม่ควรเกินวันละ 1-2 แก้ว และไม่ควรดื่มต่อเนื่องทุกวัน หรือหากเป็นไปได้ ควรงดกาแฟช่วงเตรียมตั้งครรภ์ หรือ เลือกดื่มกาแฟแบบดีคาฟ คือ กาแฟที่สกัดคาเฟอีนออก ( Decaffeinated Coffee) เป็นกระบวนการสกัดเอาคาเฟอีนออกจากเมล็ดกาแฟ ทำให้ปริมาณคาเฟอีนลดลงจนเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น คือประมาณ 1- 3% 

ครูก้อย นัชชา แนะนำให้ผู้หญิงเตรียมตั้งครรภ์ที่ติดกาแฟควรงดกาแฟ และเลือกทาน เฟอร์ตี้ คอฟฟี่ (Ferty Coffee) ทดแทนการดื่มกาแฟ เนื่องจากคิดค้นและพัฒนามาเพื่อผู้หญิงเตรียมตั้งครรภ์โดยเฉพาะ โดย เฟอร์ตี้ คอฟฟี่ เป็นโปรตีนกาแฟแท้ ไม่มีคาเฟอีน เป็นโปรตีนที่มีส่วนผสมของกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าที่ผ่านกระบวนการสกัดคาเฟอีนออก (Decaffeinated coffee) แต่ยังคงรสชาติความหอม นุ่ม เข้มข้นแบบกาแฟโรบัสต้าแท้ๆ นอกจากนี้ผู้วางแผนเตรียมตั้งครรภ์ยังได้รับโปรตีนสูงถึง 25 กรัมต่อ 1 ซอง และอุดมด้วยสารอาหารบำรุงไข่ ที่จำเป็นทั้งกรดโฟลิก อิโนซิทอล โคเอนไซม์คิวเทน (Co Q10) และมัลติวิตามินกว่า 33  โดยแนะนำให้ผู้หญิงวางแผนตั้งครรภ์ควรดื่ม โปรตีนเฟอร์ตี้ (Ferty) อย่างน้อยวันละ 2 ซอง และหากต้องการดื่มกาแฟให้เลือกทานโปรตีน เฟอร์ตี้ คอฟฟี่ (Ferty Coffee) ทดแทนการดื่มกาแฟ 



บทความที่น่าสนใจ :

ครรภ์เป็นพิษ เกิดจากอะไร อันตรายต่อเด็กและแม่ท้องหรือไม่?

โฟลิก สำคัญต่อคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างไร? คนท้องเริ่มกินโฟลิกได้ตอนไหน

เบาหวานขณะตั้งครรภ์ อันตรายอย่างไร เสี่ยงต่อลูกในท้องหรือไม่?