5 เมนูเผือก สำหรับของว่าง อร่อย หลากหลาย ได้คาร์โบไฮเดรตสูง

เมื่อพูดถึง เมนูเผือก หลายคนอาจคิดว่าเป็นวัตถุดิบธรรมดา ไม่สามารถนำไปทำอาหารได้หลากหลาย ทราบไหมคะ ว่าเผือกสามารถนำไปทำของหวานได้หลายชนิด อีกทั้งยังเป็นพืชที่มีรสชาติหวานอร่อย ทำง่าย และหาซื้อได้ไม่ยาก วันนี้เราจึงได้รวบรวมสูตร เมนูเผือก สำหรับของว่าง ที่อร่อย หลากหลาย แถมได้พลังงาน และวิตามินสูงอีกด้วย ใครกำลังหาไอเดียของหวานอร่อย ๆ ตามไปดูกันได้เลย

รู้จักที่มาของเผือก

เผือก (Taro) เป็นพืชชนิดหนึ่งที่นิยมปลูก และรับประทานกันทั่วโลก มีรสชาติหวานมัน และเต็มไปด้วยสารอาหารในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตทั้งหลาย เผือกสามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นอาหารคาว และอาหารหวาน ด้วยรสชาติที่อร่อย รับประทานแล้วอิ่มง่าย จึงทำให้เผือกเป็นอีกหนึ่งพืชที่ได้รับความนิยมเสมอ สำหรับที่มาของเผือกมีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้ โดยบางพื้นที่นิยมรับประทานเป็นอาหารหลัก เช่น ปาปัวนิวกินี หมู่เกาะในอินโดนีเซีย และหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก แต่คนไทยนิยมนำรับประทานเป็นอาหารว่าง และของหวาน รวมทั้งยังนำมาเป็นยาสมุนไพรรักษาโรคอีกด้วย

ประโยชน์จากการรับประทานเผือก

การรับประทานเผือก สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้ หากรับประทานในปริมาณ 100 กรัม จะให้พลังงานสูงถึง 119 กิโลแคลอรี ซึ่งทำให้อิ่ม ไม่หิวบ่อย และได้สารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ วิตามิน และเกลือแร่ต่าง ๆ เป็นต้น นอกจากนี้เผือกยังมีสรรพคุณ และประโยชน์มากมาย ดังต่อไปนี้

• บำรุงหัวใจ
• บำรุงสายตาได้ดี
• รักษาอาการท้องเสีย
• สร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
• บำรุงระบบประสาท และสมอง
• ช่วยให้ไตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ป้องกันท้องผูก และช่วยในการย่อยอาหาร
• ป้องกันโรคเบาหวาน และลดน้ำตาลในเลือดได้
• บรรเทาอาการอักเสบตามร่างกาย ลดอาการปวดเมื่อย
• ป้องกันฟันผุ และช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ไม่หักเปราะได้ง่าย
  
  

ทานเผือกบ่อย ๆ ทำให้อ้วนจริงไหม?

การรับประทานเผือกบ่อย ๆ ช่วยให้ร่างกายอิ่มท้อง ไม่หิวบ่อย และช่วยเรื่องระบบขับถ่ายอีกด้วย อย่างไรก็ตามการรับประทานเผือกมากเกินไป อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น เพราะเผือกจัดเป็นพืชที่พลังงานสูง หากต้องการลดน้ำหนัก ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่รับประทานมากจนเกินไป และควรออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย ซึ่งจะช่วยลดน้ำหนักได้

รวมสูตร เมนูเผือก สำหรับของว่าง อร่อย หลากหลาย ทำได้ไม่ยาก

สูตรเมนูเผือกที่เราได้คัดสรรมา เรียกได้ว่าเป็นของว่างที่อร่อย ทำง่าย แถมยังให้พลังงานสูงอีกด้วย คุณพ่อคุณแม่สามารถดัดแปลงวัตถุดิบได้ตามใจชอบ เพื่อให้ของว่างจานนั้นอร่อยมากยิ่งขึ้น

เผือกเชื่อม

วัตถุดิบ เผือกเชื่อม : เผือก 650 กรัม น้ำตาลทราย 300 กรัม เกลือ 1 ช้อนชา แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา และกะทิสำหรับราดหน้า 1/2 ถ้วย

วิธีทำ เผือกเชื่อม :

1. ตั้งหม้อ เทน้ำเปล่า จากนั้นใส่น้ำตาลทราย แล้วคนให้น้ำตาลละลาย

2. ใส่เผือกลงไป ต้มให้เผือกสุกดี จากนั้นยกขึ้นพักไว้

3. ตั้งหม้อ เทกะทิ เกลือ และแป้งข้าวเจ้า คนให้ส่วนผสมเข้ากัน และน้ำกะทิงวดดี ยกขึ้นพักไว้

4. จัดจาน นำเผือกที่เตรียมไว้ลงไป แล้วราดด้วยน้ำกะทิเมื่อครู่ พร้อมเสิร์ฟ

เผือกทอด

วัตถุดิบ เผือกทอด : เผือก 250 กรัม แป้งสาลี 1 ถ้วย แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย แป้งมัน 1/3 ถ้วยตวง ผงฟู 1+1/2 ช้อนชา น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา พริกไทย 1 ช้อนชา และน้ำปูนใส 1+1/2 ถ้วยตวง

วัตถุดิบ น้ำจิ้ม : น้ำตาลมะพร้าว 1 ถ้วย น้ำส้มสายชู 1/3 ถ้วยตวง น้ำมะขามเปียก เกลือ 1 ช้อนชา บ๊วยเค็ม 2 ลูก พริก 1 ช้อนโต๊ะ ถั่วลิสงคั่วบด และน้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง

วิธีทำ เผือกทอด :

1. เตรียมทำน้ำจิ้มโดยการตั้งกระทะ ใส่น้ำตาลมะพร้าว น้ำส้มสายชู น้ำมะขามเปียก น้ำเปล่า และเกลือ คนส่วนผสมให้เข้ากัน

2. ใส่บ๊วยเค็มลงไป กดให้บ๊วยแตก แล้วใส่พริกลงไป คนให้เข้ากันดี นำขึ้นพักไว้

3. เตรียมเผือก ขูดให้เป็นเส้น ๆ จากนั้นเตรียมภาชนะผสม ใส่แป้งสาลี แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำตาล พริกไทย ผงฟู และเกลือ คนส่วนผสมให้เข้ากัน

4. ใส่น้ำปูนใสลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้ง แล้วนำเผือกที่ขูดไว้ใส่ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน

5. ตั้งกระทะ เทน้ำมัน เมื่อน้ำมันร้อน นำลงทอดด้วยไฟปานกลาง ทอดจนสุกสีเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน

6. จัดใส่จาน ทานคู่กับน้ำจิ้ม เป็นอันเสร็จ

บัวลอยเผือกแก้วมะพร้าวอ่อน

วัตถุดิบ บัวลอยเผือกแก้วมะพร้าวอ่อน : เผือก 320 กรัม กะทิ 250 กรัม มะพร้าวอ่อน 130 กรัม แป้งมันสำปะหลัง 100 กรัม เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ และน้ำสะอาด 300 กรัม

วิธีทำ บัวลอยเผือกแก้วมะพร้าวอ่อน :

1. หั่นเผือกให้เป็นลูกเต๋า จากนั้นนำไปต้มให้พอสุก

2. เตรียมภาชนะผสม ใส่แป้งมันสำปะหลัง แล้วนำเผือกที่ต้มไว้ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นร่อนเศษแป้งออกให้หมด

3. ตั้งหม้อ เทน้ำเปล่า เมื่อน้ำร้อน นำเผือกลงไปต้มด้วยไฟอ่อนให้สุก ตักขึ้น แช่น้ำเย็นทิ้งไว้

4. ตั้งหม้อ เทกะทิ เมื่อน้ำกะทิเดือด ใส่น้ำตาล และเกลือ คนให้ละลายเข้ากัน แล้วใส่มะพร้าวอ่อนลงไป คนต่อประมาณ 3-5 นาที นำขึ้นพักไว้

5. จัดเผือกใส่ถ้วย ราดด้วยน้ำกะทิที่เตรียมไว้ พร้อมรับประทาน

ตะโก้เผือก

วัตถุดิบ ตะโก้เผือก : เผือกหั่นเต๋านึ่งสุก 200 กรัม เผือกนึ่งสุกบดละเอียด 250 กรัม น้ำต้มใบเตย 1000 กรัม แป้งข้าวเจ้า 120 กรัม แป้งเท้า 30 กรัม น้ำตาลมะพร้าว 160 กรัม น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม และเกลือป่น 1/2 ช้อนชา

วัตถุดิบ หน้าตะโก้ : หัวกะทิ 1000 กรัม น้ำตาลทราย 40 กรัม เกลือป่น 1+1/4 ช้อนชา และแป้งข้าวเจ้า 65 กรัม

วิธีทำ ตะโก้เผือก :

1. หั่นเผือกให้เป็นรูปเต๋า แล้วนำไปนึ่งให้สุกดี จากนั้นเตรียมภาชนะ แล้วเทน้ำต้มใบเตย แป้งข้าวเจ้า แป้งเท้า เผือกนึ่งสุกบดละเอียด น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทราย และเกลือป่นลงไป คนให้เข้ากันดี

2. นำส่วนผสมที่เตรียมไว้ ไปต้มด้วยไฟอ่อน คนให้เข้ากันเรื่อย ๆ จนเนื้อข้นดี

3. เทแป้งลงในกระทงใบเตยหรือภาชนะพิมพ์ หยอดให้ครบแล้วพักไว้

4. ตั้งกระทะ เทหัวกะทิ น้ำตาลทราย แป้งข้าวเจ้า และเกลือป่น คนให้แป้งละลาย แล้วต้มด้วยไฟอ่อน คนให้ส่วนผสมข้นดี

5. นำหน้าตะโก้มาหยอดลงในกระทงใบเตยหรือภาชนะพิมพ์ตอนแรก แล้วโรยหน้าด้วยเผือกหั่นเต๋าที่เตรียมไว้ เป็นอันเสร็จ

ขนมเผือกกวน

วัตถุดิบ ขนมเผือกกวน : เผือก 500 กรัม น้ำตาลทราย 150 กรัม กะทิ 250 กรัม และเกลือป่น 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ ขนมเผือกกวน :

1. นำเผือกนึ่งมาบดให้ละเอียด จากนั้นตั้งกระทะ เทน้ำกะทิ น้ำตาล และเกลือป่น คนให้น้ำตาละลาย

2. ใส่เผือกที่บดไว้ลงไป คนให้เนื้อเผือกเนียน แห้ง ร่อน ไม่ติดกระทะ แล้วตักขึ้นพักไว้

3. เตรียมภาชนะสำหรับอบ รองด้วยกระดาษไข แล้วใส่เผือกที่เตรียมไว้ลงไป เกลี่ยให้เท่ากัน แล้วพักไว้ให้เย็น

4. นำเผือกที่ได้มาตัดแบ่งตามชอบ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ เมนูเผือก ที่ได้จดสูตรกันไป บอกได้เลยว่าแต่ละสูตรนั้น ทั้งอร่อย ทำง่าย และได้ประโยชน์สูงอีกด้วย เอาเป็นว่าใครที่กำลังหาเมนูของหวานอร่อย ๆ จากเผือก อย่าลืมไปทำตามกันนะคะ รับรองว่าจะต้องอร่อย แถมถูกใจลูก ๆ แน่นอน

บทความที่น่าสนใจ :

5 เมนูปลา สำหรับเด็กเล็ก อร่อย ทำง่าย ได้ประโยชน์จากสารอาหารเต็ม ๆ

เปิดสูตร! เมนูเต้าหู้ อร่อยทำง่าย ไม่มีเบื่อ สำหรับลูกน้อย

5 เมนูข้าวโอ๊ต เพื่อสุขภาพ อร่อย หลากหลาย ได้ประโยชน์เต็มมื้อ

ที่มา : 1, 2