สำหรับวิตามินดีถือเป็นวิตามินอีกหนึ่งชนิดที่ร่างกายต้องการ เพราะวิตามินดีนั้นจะมีหน้าที่หลักช่วยในการดูดซึมแคลเซียมได้ดี และแคลเซียมถือเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน อีกทั้งยังช่วยป้องกันกระดูกพรุนอีกด้วย อีกทั้ง วิตามินดี จึงถือเป็นอีกหนึ่งวิตามินที่จำเป็นสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์เป็นอย่างมาก วันนี้เราจึงจะพามาทำความรู้จักเกี่ยวกับวิตามินดีกันค่ะ ว่าจะอุดมไปด้วยประโยชน์อะไรบ้าง มาตามไปดูพร้อมกันเลย
ทำความรู้จัก วิตามินดี
วิตามินดี จะทำหน้าที่เสริมการดูดซึมแคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม ฟอสเฟต และสังกะสี ในร่างกาย ซึ่งมีผลต่อกระบวนการสร้างกระดูกแข็งแรง และป้องกันโรคกระดูกพรุน นอกจากนี้วิตามินดียังมีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเพศ ซึ่งจะช่วยลดฮอร์โมนพาราไทรอยด์ และเพิ่มการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน ช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดและป้องกันโรคเบาหวาน อีกทั้งยังมีหน้าที่สำคัญในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอีกด้วย และสำหรับการสร้างวิตามินดี เราสามารถสร้างด้วยตัวเองจากการสัมผัสแสงแดด และรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของวิตามินดี
วิตามินดี ดีต่อแม่ท้องอย่างไร ?
สำหรับวิตามินดีนั้นจะวิตามินที่ช่วยให้ร่างกายคุณแม่ที่ตั้งครรภ์สามารถดูดซึมแร่ธาตุอย่างแคลเซียม และฟอสฟอรัส ได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะส่งผลดีต่อกระดูกและฟันของทารกในครรภ์ด้วย หากคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ไม่ได้รับวิตามินดีที่เพียงพอต่อร่างกายในระหว่างตั้งครรภ์ อาจจะทำให้เสี่ยงต่อความผิดปกติในขณะตั้งครรภ์ เช่น อาจจะเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ หรือเด็กที่คลอดออกมานั้นจะมีน้ำหนักแรกคลอดที่ต่ำ ดังนั้น คุณแม่ที่ตั้งครรภ์จะต้องรับประทานวิตามินดีในปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกาย ซึ่งปริมาณที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับจะอยู่ในปริมาณ 10 ไมโครกรัมต่อวัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : สังกะสี ดีต่อแม่ท้องอย่างไร กินปริมาณเท่าไหร่ถึงจะปลอดภัย ?
วิตามินดี หาได้จากแหล่งใดบ้าง ?
สำหรับวิตามินดีคนเราจะสามารถรับวิตามินดีได้ทั้งหมด 2 ทางเลือก นั่นก็คือจากการสังเคราะห์ที่ผิวหนัง หลังได้รับแสงแดด (UVB) และจากการกินอาหารหรือวิตามินอาหารเสริม ซึ่งอาหารที่มีวิตามิน D ก็จะเป็นอาหารจำพวกปลาที่มีไขมันสูง เช่น แซลมอน ทูน่า หรือจะเป็น ไข่แดง นม โยเกิร์ต เห็ด เมล็ดธัญพืช น้ำมันตับปลา เป็นต้น
ประโยชน์ของวิตามินดีมีอะไรบ้าง ?
- ช่วยทำให้ร่างกายสามารถใช้อินซูลินได้ดี
- ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
- ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้
- ช่วยดูดซึมแคลเซียมได้ดี
- ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน กระดูกบาง
- ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- ช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ
- ช่วยลดความเครียด และภาวะซึมเศร้า
- ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
ขาดวิตามินดี มีสาเหตุมาจากอะไร ?
- ได้รับวิตามินดีจากอาหารไม่เพียงพอในแต่ละวัน
- ได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ ส่งผลให้การสังเคราะห์วิตามินดีจากผิวหนังลดลง
- การดูดซึมวิตามินดีผ่านทางเดินอาหารบกพร่อง
อาการของคนขาดวิตามินดี ?
- มีอาการอ่อนเพลีย
- มีความเสี่ยงสูงต่อภาวะกระดูกพรุนสูง
- มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ปวดกล้ามเนื้อ
- กล้ามเนื้อเป็นตะคริว
- เจ็บป่วยง่าย
- แผลหายช้า
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิตามินบี 12 มีประโยชน์อย่างไร จำเป็นสำหรับคนท้องหรือไม่ ?
วิธีป้องกันเมื่อขาดวิตามินดีควรทำอย่างไร ?
- หาทำกิจกรรมที่ได้รับแสงแดด อย่างน้อย 15 นาที ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมจะเป็นช่วงเช้า 6.00 – 8.00 น. หรือช่วงเย็น 16.00 -18.00 น.
- รับประทานอาหารที่มีวิตามินดีสูง เช่น ปลาที่มีไขมันสูง น้ำมันตับปลา ไข่แดง นม อาหารเสริมวิตามินดี เป็นต้น
- พบแพทย์เพื่อตรวจระดับวิตามินดีในเลือดอย่างสม่ำเสมอ ก่อนจะรับประทานอาหารเสริมวิตามินดี
ดังนั้น วิตามินดี ถือเป็นวิตามินที่อุดมไปด้วยประโยชน์ต่าง ๆ มากมายต่อร่างกาย เพื่อให้ร่างสมบูรณ์แข็งแรงจึงควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินดีสูง และหากิจกรรมทำเพื่อออกไปสัมผัสแสงแดดยามเช้าและยามเย็น เพื่อที่ร่างกายจะได้รับวิตามินดีอย่างเต็มที่ด้วยนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
แม่ท้องกิน วิตามินซี ส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์หรือไม่ ?
แคลเซียม สำหรับเด็ก สำคัญอย่างไร กินปริมาณเท่าไหร่ถึงจะดี ?
ฟักทอง ช่วยบำรุงน้ำนมได้จริงไหม กินฟักทองแล้วมีประโยชน์อย่างไร?