สำหรับบทความในวันนี้เราจะมีพูดถึงเรื่องของโรคชนิดหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับดวงตานั่นก็คือ โรคต้อลม นั้นเองค่ะ โรคชนิดนี้เป็นโรคที่สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า สามารถพบได้ในบริเวณตาขาว ต้อลมไม่ถือว่าเป็นโรคร้าย แต่อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองตา และอาจจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ ดังนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักเกี่ยวกับ ต้อลม ให้มากยิ่งขึ้นค่ะ ว่าต้อลมนั้นเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง และสามารถรักษา หรือป้องกันได้อย่างไร ถ้าพร้อมแล้ว มาตามไปดูพร้อมกันเลยค่ะ
สาเหตุ ต้อลม เกิดจากอะไร?
ต้อลม เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตา เป็นการเสื่อมสภาพของเยื่อบุตาขาว โดยจะมีการก่อตัวเป็นก้อนเล็ก ๆ นูน ๆ มีลักษณะเป็นสีเหลืองหรือขาว อยู่บริเวณตาขาว ซึ่งบริเวณที่เกิดขึ้นได้จะพบในบริเวณหัวตา และที่หางตา หรือสามารถเกิดพร้อมกันได้ทั้งในหัวตา และหางตาค่ะ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดต้อลมนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากการถูกแสงอัลตราไวโอเลต (UV) เป็นเวลานาน และเป็นประจำ หรืออาจจะเกิดจากที่คุณใช้สายตาอย่างหนักจนทำให้เกิดอาการตาแห้งบ่อย ๆ อีกทั้ง สภาพแวดล้อมก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีส่วนทำให้เกิดต้อลมได้ด้วยเช่นเดียวกัน เช่น การที่ดวงตาสัมผัสกับฝุ่น ควัน ลม สารเคมี บ่อย ๆ ก็อาจจะส่งผลทำให้เกิดต้อลมได้ค่ะ
สำหรับโรคต้อลมนั้นส่วนใหญ่แล้วจะสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้สูงอายุ หรือคนที่มีอายุ 40 ปี ขึ้นไป ซึ่งในปัจจุบันนี้คนที่มีอายุน้อย หรือ อยู่ในช่วงวัยกลางคน โรคนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน ซึ่งสำหรับโรคต้อลมนั้นถือเป็นโรคที่ไม่ได้มีความร้ายแรงอะไร แต่ก็เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทำได้เพียงแค่หลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิดต้อลม และลดการเกิดการระคายเคืองที่เกิดจากต้อลมเพียงเท่านั้น
แต่ต้อลมก็ถือเป็นโรคที่ไม่สามารถแพร่เชื้อกระจายได้ เพียงแค่ถ้าหากคุณเป็นโรคต้อลม คุณควรรีบทำการรักษาทันที เพื่อไม่ให้เกิดการกระจายลุกลามมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าหากเกิดการลุกลาม จนมีอาการที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น จนทำให้เกิดการระคายเคืองตา ถึงขั้นเจ็บตา และทำให้การมองเห็นลดลง จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ถ้าหากเป็นแบบนั้นคุณควรรีบทำการรักษาทันทีค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ต้อกระจก อาการเป็นอย่างไร อันตรายไหม รักษาด้วยวิธีใดได้บ้าง?
อาการของโรคต้อลม
โดยทั่วไปแล้วอาการของโรคต้อลมนั้น แต่ละคนก็จะมีอาการที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจมีอาการเพียงแค่เล็กน้อย หรือยังไม่มีอาการปรากฏให้เห็นชัดเจน แต่สำหรับบางคนก็อาจจะมีอาการรุนแรง ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นก็มาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นโรคต้อลมมักจะมีอาการหลัก ๆ ดังนี้
- จะมีความรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในดวงตา หรือเกิดการระคายเคืองกับดวงตา
- จะเกิดตุ่มนูนเล็ก ๆ สีเหลืองหรือขาว บริเวณที่ตาขาว
- มีอาการตาแดง รู้สึกตาแห้ง หรือแสบตา คันตา น้ำตาไหล นั้นเท่ากับว่าเนื้อเยื่อบุบริเวณตาขาวนั้นได้เกิดการอักเสบขึ้น
- หากไม่รีบทำการรักษาก็อาจจะทำให้มีปัญหาในการมองเห็นเพิ่มมากยิ่งขึ้น
- เมื่อเกิดการลุกลามเข้าไปกลางกระจกตาจะทำให้การเห็นลดลง อาจจะมีอาการตามัว และอาจเกิดภาวะสายตาเอียงได้ เนื่องจากต้อลมเกิดการลุกลามเข้าไปในกระจกตามากขึ้น ทำให้ส่งผลต่อการหักเหของแสง และทำให้ความโค้งของกระจกตานั้นเปลี่ยนไป
- สำหรับผู้ป่วยบางรายอาจจะมีอาการตาบวม และมีอาการเจ็บตาเกิดขึ้น
การวินิจฉัยโรคต้อลม
สำหรับการวินิจฉัยของแพทย์อาจจะเริ่มจากการซักประวัติผู้ป่วย ทำการตรวจดวงตาเบื้องต้น ซึ่งโดยปกติแล้วโรคต้อลมจะสามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า ดังนั้น แพทย์จะวินิจฉัยจากการดูอาการของดวงตาเป็นหลักหรืออาจจะมีการใช้เครื่องมือตรวจโรคตาเบื้องต้น เพื่อหาสาเหตุของโรคตาอื่น ๆ ร่วมด้วย สำหรับโรคต้อลมนั้นถือเป็นโรคที่ไม่สามารถทำการรักษาให้ขาดได้ ถึงแม้คุณจะทำการผ่าตัดต้อลมให้หายไปจากดวงตาแล้วก็ตาม ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดต้อลมซ้ำขึ้นอีก คุณก็จะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตต่าง ๆ เพื่อปกป้องดวงตาของคุณ ตามวิธีป้องกันที่เรานำมาฝากค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ตาแดง เกิดจากอะไร คุณแม่รับมืออย่างไรเมื่อลูกมีอาการตาแดง?
การรักษาและป้องกันโรคต้อลม
- สำหรับการรักษาโรคต้อลมของคนที่เป็นผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง เจ็บตา ระคายเคืองตา ดวงตามีอาการบวมแดง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจจะแนะนำให้ใช้น้ำตาเทียม หรือยาหยอดตา ที่แพทย์เป็นคนสั่งจ่าย เพื่อบรรเทาอาการระคายเคือง และการอักเสบ แต่ถ้าหากอาการไม่ดีขึ้นจนส่งผลต่อการมองเห็น แพทย์อาจจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัดค่ะ ดังนั้น การรักษาโรคต้อลมก็จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคเป็นหลักค่ะ
- สำหรับคนที่เป็นโรคต้อลม โดยที่ยังไม่มีอาการที่รุนแรง คุณสามารถป้องกันดวงตาของคุณได้ค่ะ เพื่อไม่ต้อลมลุกลามไปยังกระจกตาจนส่งผลต่อการมองเห็น ก็คือการหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะไปกระตุ้นการเกิดต้อลม เช่น ถ้าหากอยู่กลางแจ้งควรสวมแว่นกันแดด เพื่อปกป้องดวงตาจากลม ฝุ่น ควัน แสงแดด และความร้อนจากรังสี UV
- และสำหรับใครที่มีอาการระคายเคืองดวงตาบ่อย ๆ หรือมีอาการตาแห้งบ่อย ๆ แนะนำให้พกน้ำตาเทียมติดตัวไว้ เพื่อใช้น้ำตาเทียมหยอด เพื่อลดอาการตาแห้ง และระคายเคือง ดังนั้น ควรดูแลดวงตาของคุณให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอนะคะ อย่าปล่อยตาแห้ง และเมื่อเกิดการระคายเคืองก็ไม่ควรไปขยี้ตาด้วยนะคะ
- สำหรับคนที่ต้องทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ แนะนำให้หาเวลาพักสายตาจากการที่จ้องคอมพิวเตอร์ด้วยนะคะ เพื่อป้องกันไม่ให้งานดวงตาหนักเกินไป
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกันบ้างคะกับข้อมูลที่เรานำมาฝากกันวันนี้ ถึงแม้ต้อลมจะไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงจนถึงขั้นส่งผลเสียต่อชีวิต แต่เมื่อเกิดการลุกลาม หรือมีอาการอักเสบเรื้อรัง ก็อาจจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้นะคะ ดังนั้น การที่เราทราบสาเหตุ และวิธีป้องกันไว้ ก็จะช่วยให้รับมือกับปัญหาของโรคนี้ได้ค่ะ เพื่อที่จะได้ป้องกันไม่ให้มันรุนแรงไปมากกว่าเดิม และถ้าหากใครที่เริ่มรู้สึกว่ามีอาการที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันทีนะคะ อย่างปล่อยทิ้งไว้เด็ดขาด หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้สำหรับทุกคนนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ตากุ้งยิง เกิดจากอะไร ลูกเป็นตากุ้งยิงบรรเทาอาการอย่างไรได้บ้าง?
ลูกมีผื่นแดง ปัญหาผิวที่แม่ป้องกันได้ แค่เพียงรู้สาเหตุ !