การที่คุณแม่รู้สึกท้องแข็ง หรือมีอาการ มดลูกบีบตัว เกิดขึ้นในขณะตั้งครรภ์ หลายคนคงสงสัยกันอยู่ใช่ไหมคะว่าอาการที่เกิดขึ้น สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง และถ้าเรามีอาการแบบนี้ ควรรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไรบ้าง หากคุณแม่คนไหนที่กำลังอยากรู้คำตอบแล้วล่ะก็ เรามาดูสิ่งที่ทำให้คุณแม่มีอาการ มดลูกบีบตัว ไปพร้อมกันเลยค่ะ
สาเหตุที่ทำให้มดลูกบีบตัว สิ่งนี้เกิดจากอะไรบ้าง? มาดูกัน
คุณแม่หลายคนคงอยากรู้กันอยู่แล้วว่า มีปัจจัยหรือสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้เรารู้สึกมีอาการมดลูกบีบตัวขึ้นมาได้ หรือพฤติกรรมที่เราเป็นอยู่ ณ ตอนนี้ เสี่ยงที่จะทำให้เรามีอาการมดลูกบีบตัวขึ้นมาได้หรือเปล่า เรามาดูสาเหตุที่เกิดขึ้นไปพร้อมกันเลยนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ตั้งครรภ์ 3 เดือน ท้องแข็งเป็นก้อน อันตรายหรือไม่? เกิดจากอะไร?
1. ร่างกายรู้สึกขาดน้ำ
เมื่อไหร่ที่คุณแม่ดื่มน้ำในปริมาณที่น้อยจนเกินไป นอกจากสิ่งต่าง ๆ ที่จะส่งผลไม่ดีต่อร่างกายของคุณแม่และลูกในท้องแล้วนั้น สิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลทำให้มดลูกมีการบีบตัวเกิดขึ้นมาได้ง่าย ๆ เพราะฉะนั้นหากใครที่ไม่อยากให้อาการเหล่านี้เกิดขึ้นกับตัวเรา พยายามดื่มน้ำให้มาก ๆ และดื่มในปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกายนะคะ
2. ออกกำลังกายมากเกินไป
แน่นอนค่ะว่าการออกกำลังกาย นับเป็นเรื่องที่ดีแถมยังช่วยทำให้สุขภาพร่างกายของเราและลูกในท้องแข็งแรงตามไปด้วย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณแม่ออกกำลังกายมากเกินไป หรือพยายามทำอะไรที่ค่อนข้างใช้แรงเยอะ ๆ สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้มีอาการมดลูกบีบตัวขึ้นมาได้ง่ายเหมือนกัน เพราะฉะนั้นควรต้องระวังเรื่องนี้กันด้วยนะคะ
3. มดลูกอาจมีการบีบหลังมีเพศสัมพันธ์
อีกหนึ่งสิ่งที่จะส่งผลทำให้คุณแม่มีอาการมดลูกบีบตัวขึ้นมาได้นั่นคือ การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงตั้งครรภ์ เพราะฉะนั้นคุณแม่อาจจะต้องระวังในเรื่องนี้กันด้วยนะคะ หรือทางที่ดีเพื่อความปลอดภัยสำหรับลูกน้อยในท้อง คุณแม่อาจจะต้องทำการปรึกษา หรือขอคำแนะนำจากคุณหมอตามไปด้วยนั่นเองค่ะ
อาการมดลูกบีบตัวที่คุณแม่ควรต้องระวัง!
สำหรับใครที่กำลังเช็กอาการตัวเองอยู่ว่า อาการที่เราเป็นอยู่ในตอนนี้ กำลังบ่งบอกว่ามดลูกเรากำลังเกิดการบีบตัวอยู่หรือไม่ หรือหากใครที่เสี่ยงมีอาการมดลูกบีบตัว โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะมีอาการอย่างไรบ้าง เอาเป็นว่าเรามาเช็กดูอาการไปพร้อมกันเลยนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : แม่ท้องปวดท้องน้อยเกิดจากอะไร อันตรายหรือเปล่า ?
1. ปวดหลังส่วนกลาง
เมื่อไหร่ที่คุณแม่รู้สึกปวดหลังบริเวณตรงกลาง สิ่งนี้ก็อาจจะกำลังบ่งบอกคุณแม่ได้ว่ามดลูกของเรากำลังเกิดการบีบตัวเกิดขึ้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วอาการปวดที่เกิดขึ้นก็มักจะแตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นหากใครที่กำลังรู้สึกแบบนี้อยู่แล้วล่ะก็ หากไม่ไหวก็อาจจะต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำหรือทำการรักษากันนะคะ
2. ปวดบริเวณอุ้งเชิงกรานและท้องส่วนบน
หากคุณแม่คนไหนที่รู้สึกปวดบริเวณอุ้งเชิงกราน หรือบริเวณท้องส่วนบนอยู่ในตอนนี้ เราอาจจะต้องทำการสังเกตอาการปวดของตัวเองด้วยค่ะว่า ลักษณะอาการที่เรารู้สึกปวดนั้นมากหรือน้อยเพียงใด เพื่อที่เราจะได้รับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกวิธี
3. มีอาการเจ็บปวดเกิดขึ้น
การที่คุณแม่รู้สึกมีอาการเจ็บหรือปวดเกิดขึ้น สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้คุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ หรือรู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นหากใครที่กำลังรู้สึกปวดหรือเจ็บบริเวณท้องน้อย อย่านิ่งนอนใจไปเลยนะคะ คุณแม่อาจจะต้องรีบไปพบแพทย์ เพื่อที่คุณหมอจะได้รีบทำการรักษา และลูกในท้องของเราจะได้ปลอดภัยตามไปด้วยค่ะ
4. ไม่สามารถเดิน หรือพูดได้
ในช่วงที่มดลูกเกิดการบีบตัว สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้คุณแม่ไม่สามารถเดินหรือพูดได้ตามปกติสักเท่าไหร่ ซึ่งเราอาจจะต้องรอให้อาการนี้ดีขึ้นในช่วงหนึ่งถึงจะเดินหรือพูดได้ตามปกติ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่อาการเหล่านี้มีความผิดปกติเกิดขึ้น คุณแม่อาจจะต้องรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดนะคะ เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะส่งผลไม่ดีต่อเจ้าตัวเล็กได้เลย
เราควรรับมือกับอาการมดลูกบีบตัวยังไงดี?
ทุกครั้งที่คุณแม่รู้สึกมีอาการท้องแข็ง หรือมดลูกมีการบีบตัวเกิดขึ้น เชื่อว่าคุณแม่หลายคนก็คงอยากทราบกันใช่ไหมคะว่า เราควรมีวิธีการรับมือกับอาการที่เกิดขึ้นอย่างไรบ้าง ไม่ต้องเป็นกังวลใจไปนะคะ เรามาดูวิธีการรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปพร้อมกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : ท้อง 7 เดือน ท้องแข็งบ่อย สาเหตุเกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่ ?
1. อาบน้ำอุ่น
การที่คุณแม่เลือกอาบน้ำอุ่นแทนการอาบน้ำเย็น เชื่อหรือไม่คะว่าสิ่งนี้ก็ค่อนข้างช่วยบรรเทาอาการมดลูกบีบตัวให้กับคุณแม่ได้ดีเช่นเดียวกัน นอกจากจะช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ดีขึ้นแล้ว การอาบน้ำอุ่นยังช่วยทำให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายและสบายตัวขึ้นมาได้มาก ๆ อีกด้วย หากใครที่กำลังพบเจอกับสถานการณ์แบบนี้อยู่แล้วล่ะก็ ลองอาบน้ำอุ่นดูนะคะ
2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ในเรื่องของการรับประทานอาหารก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างสำคัญมาก ๆ เลย เมื่อไหร่ที่คุณแม่รับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ สิ่งนี้ก็จะช่วยทำให้ร่างกายของคุณแม่และลูกในท้องได้รับสารอาหารสำคัญได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังช่วยลดอาการมดลูกบีบให้กับคุณแม่ได้ดีมาก ๆ ด้วย บอกเลยว่าวิธีนี้ค่อนข้างเห็นผลเลยทีเดียว
3. ออกกำลังกายอยู่เสมอ
ในเรื่องของการออกกำลังกายเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้สุขภาพร่างกายของคุณแม่แข็งแรงขึ้นมาก ๆ เมื่อไหร่ที่คุณแม่พยายามออกกำลังกาย หรือพยายามเคลื่อนไหวร่างกายอยู่เสมอ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ก็ยิ่งเข้าไปช่วยส่งเสริมทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดอาการมดลูกบีบด้วยให้กับคุณแม่ได้ด้วยนะคะ
4. ฝึกเล่นโยคะ
นอกเหนือจากการออกกำลังกายแล้วนั้น การเล่นโยคะก็เป็นอะไรที่คุณแม่ควรต้องใส่ใจมาก ๆ เช่นเดียวกัน โดยการเล่นโยคะสำหรับคนท้อง คุณแม่อาจจะต้องเลือกเล่นโยคะที่เน้นการหายใจ เพื่อที่เราจะได้เตรียมความพร้อมให้กับร่างกาย ทำให้คุณแม่มีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะค่ะ
เมื่อพูดถึงเรื่องของอาการ มดลูกบีบตัว หรืออาการท้องแข็งในช่วงการตั้งครรภ์ แน่นอนว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถปฏิเสธได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หากคุณแม่รู้จักวิธีการรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง และพยายามดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ เชื่อเลยค่ะว่าคุณแม่จะรับมือกับอาการที่เกิดขึ้นได้อย่างสบาย และที่สำคัญสิ่งนี้ก็จะช่วยทำให้ลูกในท้องของเราปลอดภัยตามไปด้วย เพราะฉะนั้นใครที่ชอบมีอาการท้องแข็ง หรือมดลูกมีการบีบตัวในช่วงตั้งครรภ์อยู่บ่อย ๆ ไม่ต้องกังวลใจไปนะคะ เพราะเราได้นำเคล็ดลับและวิธีการรับมือมาฝากคุณแล้ว
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
รู้หรือไม่! แท้งลูก เกิดจากอะไร? หนึ่งในอาการที่ส่งผลอันตรายต่อคุณแม่และลูกในท้อง
เรื่องน่ารู้! บล็อกหลังคลอด ตัวช่วยบรรเทาความเจ็บปวด สำหรับแม่ท้องคลอดลูก