รู้หรือไม่! แท้งลูก เกิดจากอะไร? หนึ่งในอาการที่ส่งผลอันตรายต่อคุณแม่และลูกในท้อง

การที่คุณแม่จะแท้งลูกขึ้นมาได้นั้น หลายคนก็ค่อนข้างสงสัยกันใช่ไหมคะว่า มีปัจจัยหรือสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้เรา แท้งลูก ขึ้นมาได้ ทั้ง ๆ ที่บ 

 1522 views

การที่คุณแม่จะแท้งลูกขึ้นมาได้นั้น หลายคนก็ค่อนข้างสงสัยกันใช่ไหมคะว่า มีปัจจัยหรือสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้เรา แท้งลูก ขึ้นมาได้ ทั้ง ๆ ที่บางทีคุณแม่ก็ค่อนข้างที่จะดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของเราตัวเองให้ดีอยู่แล้ว สำหรับใครที่กำลังสงสัย หรือกำลังมีคำถามเกิดขึ้นในใจอยู่แล้วล่ะก็ เรามาดูสาเหตุที่ทำให้คุณแม่ แท้งลูก ไปพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ



สาเหตุที่ทำให้แท้งลูกเกิดจากอะไร?

การแท้งลูกเป็นหนึ่งในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ง่ายมาก ๆ หากคุณแม่ไม่ดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของตัวเองให้ดีอยู่เสมอ หากใครที่อยากทราบว่าแล้วสาเหตุที่จะทำให้เราแท้งลูกขึ้นมาได้นั้น โดยส่วนใหญ่แล้วเกิดจากอะไรบ้าง มาค้นหาคำตอบไปด้วยกันเลยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : อาการเจ็บท้องระหว่างตั้งครรภ์ เรื่องสำคัญที่แม่ท้องควรรู



แท้งลูก



1. เกิดจากโครโมโซมทารกผิดปกติ

สาเหตุหลักอย่างแรกเลยที่ค่อนข้างเสี่ยงต่อการแท้งลูกอยู่บ่อย ๆ นั่นคือการที่ลูกในท้องของเรามีโครโมโซมที่ผิดปกติไปจากเดิม ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วมักเกิดขึ้นบ่อยสุกในช่วง 3 เดือนแรก ซึ่งต้องบอกว่าความผิดปกติของโครโมโซมที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น อาจจะมีจำนวนที่มากกว่าปกติ หรือมีจำนวนที่ไม่เพียงพอ จึงส่งผลทำให้ทารกในครรภ์ของเราเกิดความผิดปกติ และเสี่ยงต่อการแท้งลูกขึ้นมานั่นเอง



2. เกิดจากมดลูกของคุณแม่ผิดปกติ

สิ่งที่จะส่งผลทำให้คุณแม่มีอาการแท้งลูกขึ้นมาอีกอย่างเลยคือ เกิดจากการที่คุณแม่มีมดลูกที่ผิดปกติไปจากเดิม โดยอาจจะเกิดจากการที่คุณแม่มีมดลูกที่หลวมจนเกินไป หรือมีมดลูกที่ค่อนข้างอ่อนแอ และเมื่อไหร่ที่ทารกในครรภ์ของเราเริ่มเจริญเติบโตมากขึ้น สิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลทำให้คุณแม่มีอาการแท้งลูกขึ้นมาได้ง่าย ๆ เลย



3. เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน

สาเหตุต่อมาเลยคือ การที่คุณแม่มีความผิดปกติเกิดขึ้นของระบบภูมิคุ้ม สิ่งนี้ก็ค่อนข้างส่งผลทำให้คุณแม่แท้งลูกในขณะที่กำลังตั้งครรภ์ได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นหากใครที่ไม่อยากแท้งลูก เราควรที่จะดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของตัวเองให้ดีที่สุด หรือเราอาจจะต้องทำการปรึกษาคุณหมอก่อนที่จะมีบุตร นับได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดีอีกอย่างที่จะช่วยทำให้คุณแม่ไม่เสี่ยงต่อการแท้งลูกในขณะตั้งครรภ์ขึ้นมาได้



4. เกิดจากภาวะรังไข่มีถุงน้ำหลายใบ

รู้หรือไม่คะว่า การที่คุณแม่ตกอยู่ในสภาวะที่มีรังไข่หลายใบนั้น สิ่งนี้ก็ค่อนข้างที่จะส่งผลทำให้คุณแม่แท้งลูกได้ง่ายเหมือนกัน เพราะการที่ผู้หญิงอย่างเรามีถุงน้ำรังไข่หลายใบนั้น ภายในถุงน้ำรังไข่ก็จะเต็มไปด้วยฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้จะเป็นฮอร์โมนของเพศชาย และถ้าเมื่อไหร่ที่ฮอร์โมนเพศชายสูงกว่าปกติ สิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลทำให้คุณแม่เสี่ยงต่อการแท้งลูกได้เหมือนกัน



5. เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย

หากเมื่อไหร่ที่คุณแม่เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียขึ้นมาแล้วนั้น สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้คุณแม่แท้งลูกได้ง่ายขึ้นเหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสาเหตุที่ส่งผลทำให้คุณแม่เสี่ยงต่อการแท้งลูก ได้แก่ โฮมินิส ยูเรียไลติคัม ยูเรียพลาสม่า และไมโคพลาสม่า เป็นต้น สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะอยู่อาศัยในบริเวณอวัยวะเพศหญิงหรือเพศชาย หากเมื่อไหร่ที่เกิดการติดเชื้อขึ้นมา สิ่งนี้ก็จะส่งผลทำให้เยื่อมดลูกเกิดการอักเสบ อีกทั้งยังส่งผลทำให้ทารกในครรภ์ของเราเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ จนเสี่ยงต่อการแท้งลูกได้ในที่สุด



6. การใช้ชีวิตของคุณแม่

เชื่อหรือไม่ว่าพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคุณแม่ก็ค่อนข้างที่จะส่งผลทำให้เราเสี่ยงต่อการแท้งลูกได้ค่อนข้างมากอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ค่อนข้างเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ เพราะฉะนั้นหากคุณแม่อยากให้ลูกของเราปลอดภัยและเติบโตมาเป็นเด็กที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี เราควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่าง ๆ ให้เหมาะสม และหันมาดูแลรักษาสุขภาพกันให้มากขึ้นนะคะ



อาการแท้งลูก มีลักษณะเป็นอย่างไรบ้าง?

สำหรับคุณแม่คนไหนที่อยากทราบว่าเราจะทราบได้อย่างไรบ้างว่า หากเรามีอาการแบบนี้อยู่นั่นแสดงว่าเราเสี่ยงที่จะแท้งลูกอยู่หรือเปล่า เอาเป็นว่าเรามาเช็กอาการแท้งลูกไปพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องปวดหลัง อันตรายไหม บรรเทาอาการด้วยวิธีใดได้บ้าง?



แท้งลูก



1. มีเลือดไหลออกจากบริเวณช่องคลอด

หากเมื่อไหร่ที่คุณแม่รู้สึกว่าตัวเองกำลังมีเลือดไหลออกมาจากบริเวณช่องคลอดอยู่ในตอนนี้ ถึงแม้ว่าเลือดที่ออกมานั้นจะออกมาเพียงนิดเดียว เราไม่ควรที่จะปล่อยปละละเลยสิ่งนี้ไปนะคะ คุณแม่อาจจะรีบทำการไปพบแพทย์ เพื่อที่คุณแม่จะได้ทำการรักษาให้เร็วที่สุด อีกทั้งลูกในท้องของเราจะได้ปลอดภัยตามไปด้วย


2. เนื้อเยื่อถูกขับออกมาทางช่องคลอด

หากอยู่ ๆ คุณแม่สังเกตได้ว่ามีเนื้อเยื่อถูกขับออกมาบริเวณช่องคลอดอยู่ ณ ตอนนี้ สิ่งนี้ก็อาจจะกำลังบ่งบอกคุณแม่ได้เหมือนกันค่ะว่า เราเสี่ยงที่จะแท้งลูกมาก ๆ เพราะฉะนั้นเราควรรีบทำการพบแพทย์ หรือรีบทำการปรึกษาคุณหมอจะดีกว่าค่ะ



3. เกิดตะคริวอย่างรุนแรง

วันไหนที่คุณแม่รู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นตะคริวอยู่ ไม่ควรที่จะนิ่งนอนใจไปเลยนะคะ คุณแม่อาจจะต้องรีบทำการพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพราะหากเมื่อไหร่ที่เราเป็นตะคริวขึ้นมาบ่อย ๆ และไม่ยอมไปหาหมอสักที สิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลทำให้คุณแม่แท้งลูกขึ้นมาได้ง่ายมาก ๆ



4. รู้สึกปวดหลัง

เชื่อไหมคะว่าการที่คุณแม่รู้สึกปวดหลังขึ้นมานั้น สิ่งนี้อาจจะไม่ได้เกิดปัจจัยของการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์เพียงอย่างเดียว แต่สิ่งนี้อาจเป็นอีกหนึ่งในอาการที่ส่งผลทำให้คุณแม่แท้งลูกได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นคุณแม่คนไหนที่กำลังมีอาการเหล่านี้อยู่แล้วล่ะก็ ไม่ควรปล่อยให้ตัวเองรู้สึกปวดหลังนานเกินไปนะคะ แต่ควรรีบไปพบแพทย์จะดีกว่าค่ะ



วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดการแท้งลูกควรทำยังไง?

แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้อาการแท้งลูกเกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะฉะนั้นหากใครที่กำลังหาวิธีดูแลตัวเอง เพื่อที่สิ่งเหล่านี้จะได้ช่วยป้องกันอาการแท้งลูกให้กับเราได้ มาดูไปพร้อมกันเลยนะคะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : อาการท้องแข็ง เกิดจากอะไร? หนึ่งในอาการที่คุณแม่ควรเฝ้าระวัง!



แท้งลูก



1. ทำการปรึกษาคุณหมอก่อน

ก่อนที่คุณแม่จะมีเจ้าตัวเล็ก แน่นอนว่าคุณแม่อาจจะต้องทำการวางแผนการมีลูกก่อนจะดีกว่า เพื่อที่ลูกในท้องของเราจะได้ปลอดภัย อีกทั้งเราจะได้ไม่เสี่ยงต่อการแท้งลูกตามไปด้วย นอกจากนี้คุณแม่ก็อาจจะต้องทำการตรวจสุขภาพตัวเองให้แน่ชัดด้วยว่าสุขภาพร่างกายของเราแข็งแรงพร้อมที่จะมีลูกหรือเปล่านั่นเองค่ะ



2. รีบฝากครรภ์โดยทันที

เมื่อไหร่ที่เรารู้ว่าตัวเองกำลังตั้งท้อง ทางที่ดีคุณแม่อาจจะต้องรีบไปทำการฝากครรภ์ เพื่อที่เราจะได้ดูแลลูกในท้องได้อย่างถูกวิธี อีกทั้งคุณหมอก็จะได้ดูแลสุขภาพร่างกายของคุณแม่ในขณะตั้งครรภ์ตามไปด้วย



3. พยายามควบคุมน้ำหนักให้อยู่ตามเกณฑ์

ในเรื่องของน้ำหนักก็ค่อนข้างสำคัญด้วยเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นคุณแม่อาจจะต้องพยายามควบคุมน้ำหนักตัวเองให้อยู่ตามเกณฑ์เสมอ ไม่ควรปล่อยให้ตัวเองมีน้ำหนักที่มากหรือน้อยจนเกินไป เพราะสิ่งนี้อาจจะส่งผลอันตรายต่าง ๆ และเสี่ยงที่จะทำให้เราแท้งลูกได้



การแท้งลูก ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในอาการที่ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ง่าย หากคุณแม่ไม่รู้จักดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ ดังนั้นหากคุณแม่คนไหนที่อยากให้ลูกในท้องของเราแข็งแรงและเติบโตมาเป็นเด็กที่มีสุขภาพดี อย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพร่างกายกันด้วยนะคะ


บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

คนท้องกินปลาอะไรดี กินแล้วมีประโยชน์ต่อลูกในท้องอย่างไร?

แม่ต้องรู้! คนท้องกินหญ้าฝรั่นได้ไหม กินแล้วจะส่งผลดีต่อลูกในท้องได้หรือเปล่า?

คนท้องกินยาแก้อักเสบได้ไหม ยาประเภทนี้เป็นอันตรายไหม? มาดูกัน

ที่มา : 1, 2