กุยช่าย มีประโยชน์ต่อคุณแม่อย่างไร ช่วยเพิ่มน้ำนมได้จริงไหม?

สำหรับคุณแม่ที่กำลังมองหาอาหารบำรุงน้ำนม บอกเลยว่า กุยช่าย เป็นผักที่มีประโยชน์เป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มน้ำนมแล้ว ยังมีสารอาหารสำคัญต่อคุณแม่ท้องอย่างวิตามิน และโฟลิกที่จำเป็นต่อการสร้างเซลล์ของทารก วันนี้ Mama Story จะพาคุณแม่มาดูกันว่า กุยช่ายมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร กินกุยช่ายอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูกันค่ะ

ทำความรู้จักกุยช่าย

กุยช่าย เป็นพืชตระกูลล้มลุกที่มีประโยชน์เป็นอย่างมาก หลายคนมักสับสนกุยช่าย และต้นหอม เนื่องจากมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตามใบกุยช่ายจะมีลักษณะที่แบนกว่า และมีดอกเล็ก ๆ สีขาวอยู่ตรงปลาย สามารถนำไปรับประทานได้

นอกจากนี้ กุยช่ายยังแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ กุยช่ายขาว และกุยช่ายเขียว ซึ่งมีคุณค่าทางสารอาหารเป็นอย่างมาก หากรับประทานก็จะทำให้ร่างกายได้รับแคลเซียม ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส คาร์โบไฮเดรต เบตาแคโรทีน และวิตามินซี โดยทั่วไปแล้ว กุยช่ายนิยมนำมากินสด ๆ เป็นเครื่องเคียง และนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นผัดกุยช่าย ขนมกุยช่าย และกุยช่ายทอด เป็นต้น

บทความที่เกี่ยวข้อง : อาหารเสริมเพิ่มน้ำนม จำเป็นไหม แม่ท้องกินอะไรแล้วช่วยบำรุงน้ำนม?

กุยช่ายมีประโยชน์อย่างไร

กุยช่ายมีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการให้สารอาหารสำคัญต่อร่างกายคุณแม่ อีกทั้งยังมีประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

1. บำรุงน้ำนม

อย่างที่ทราบกันดีว่าการรับประทานกุยช่าย ช่วยให้คุณแม่เพิ่มน้ำนมได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์ ซึ่งนอกจากจะช่วยเตรียมน้ำนมให้พร้อมในการเลี้ยงลูกแล้ว การรับประทานกุยช่ายยังช่วยให้คุณแม่เจริญอาหารมากขึ้น และยังช่วยลดอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนขณะตั้งครรภ์อีกด้วย

2. รักษาไข้หวัด

สำหรับคุณแม่ที่มีอาการไข้หวัด สามารถรับประทานกุยช่ายเพื่อลดไข้ และบรรเทาอาการไข้หวัดได้ เนื่องจากบางครั้ง การใช้ยาขณะตั้งครรภ์ หรือในช่วงที่ให้นมบุตร อาจส่งผลต่อน้ำนมที่ลูกน้อยดื่มได้ ดังนั้นคุณแม่ควรหันมาใช้วิธีที่ปลอดภัยอย่างการรับประทานกุยช่าย และผักที่มีประโยชน์ ก็จะปลอดภัยต่อการใช้ยารักษาค่ะ

3. ควบคุมความดัน

คุณแม่หรือผู้ที่มีอาการความดันโลหิตสูง สามารถรับประทานกุยช่ายเพื่อลดระดับความดันลงได้ เนื่องจากกุยช่ายมีสารอัลลิซิน ที่มีฤทธิ์ในการกำจัดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีในเลือดได้ หากคุณแม่รับประทานบ่อย ๆ ก็จะช่วยลดระดับความดันโลหิตได้เป็นอย่างดีค่ะ

4. รักษาอาการตกขาว

สำหรับคุณแม่ และสาว ๆ ที่มีอาการตกขาว สามารถนำต้นกุยช่าย น้ำตาลอ้อย และไข่ไก่ มาต้มรวมกันแล้วดื่ม ก็จะช่วยแก้อาการตกขาวให้ดีขึ้น และหายไปได้เองค่ะ

5. แก้อาการท้องอืด

อีกหนึ่งประโยชน์ของกุยช่ายนั้น คือ การช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ คุณแม่สามารถรับประทานกุยช่ายเพื่อบรรเทาอาการปวดท้อง อาหารไม่ย่อย และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหารในลำไส้ได้ นอกจากนี้ หากเด็ก ๆ มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อหลังดื่มนม คุณแม่สามารถนำใบกุยช่ายมาทาที่ท้องของเด็ก จะช่วยบรรเทาอาการท้องอืดให้ดีได้อีกเช่นกัน

6. ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน

กุยช่ายมีวิตามินซีมากมาย ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันได้ โดยหากคุณแม่รับประทานกุยช่ายนั้น ร่างกายก็จะกระตุ้นให้ผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาว และคอลลาเจนออกมา ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างหลอดเลือด เนื้อเยื่อ เซลล์ และกล้ามเนื้อนั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์ในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี

7. บำรุงกระดูก

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า กุยช่ายสามารถช่วยบำรุงกระดูกได้ เพราะเป็นผักที่มีวิตามิน และแร่ธาตุมากมาย โดยเฉพาะวิตามินเค ที่สามารถรักษาความหนาแน่นของกระดูก และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุนได้ นอกจากนี้การรับประทานกุยช่ายยังช่วยลดภาวะการอักเสบอย่างรุนแรงของกระดูก เช่น โรคข้ออักเสบ เป็นต้น

8. ขับพิษในร่างกาย

ประโยชน์สุดท้ายของกุยช่ายนั้น คือ การกำจัดสารพิษต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเกลือ น้ำ และไขมันส่วนเกิน สามารถทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ และขับของเสียจากอนุมูลอิสระ และต้านเชื้อแบคทีเรียอีกด้วยค่ะ เรียกได้ว่าเป็นพืชสมุนไพรที่ช่วยล้างสารพิษออกจากร่างกายได้ดีเยี่ยม

เมนูกุยช่ายช่วยบำรุงน้ำนม

กุยช่าย สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายเมนู สำหรับคุณแม่ที่กำลังมองหาเมนูกุยช่ายเพิ่มน้ำนม สามารถนำเมนูเหล่านี้ไปประกอบอาหารได้ค่ะ

1. กุยช่ายขาวผัดเต้าหู้

เมนูคลาสสิกของกุยช่าย คือ การนำมาผัดกับเต้าหู้ขาว และหมูสับ เนื่องจากเมนูนี้มีโปรตีนจากถั่วเหลือง และหมูสับ สามารถช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังคลอดของคุณแม่ได้ดี อีกทั้งยังมีธาตุเหล็กที่ช่วยบำรุงเลือด และช่วยขับลมได้ รวมทั้งยังให้กากใบสูง และช่วยบำรุงน้ำนมคุณแม่ได้อีกด้วย

2. เปาะเปี๊ยะกุยช่ายหมูสับ

หากคุณแม่กำลังมองหาเมนูกุยช่ายอร่อย ๆ บอกเลยว่าเมนูเปาะเปี๊ยะกุยช่ายหมูสับเป็นอะไรที่น่าลองมาก ๆ คุณแม่สามารถนำหอม แฮม และกุยช่ายมาผัดรวมกัน แล้วนำมาหอด้วยแผ่นเปาะเปี๊ยะแล้วนำไปทอด ก็จะช่วยบำรุงน้ำนมของคุณแม่ และช่วยให้ร่างกายได้รับแคลเซียม ในการช่วยบำรุงกระดูกอีกด้วยค่ะ

3. ขนมกุยช่าย

สำหรับเมนูอาหารว่างจากกุยช่าย คุณแม่สามารถนำกุยช่ายมาทำเป็นกุยช่ายไส้ต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นไส้ผัก หรือไส้เผือก แล้วห่อด้วยแป้ง จับจีบเป็นรูปต่าง ๆ แล้วนำไปนึ่งหรือทอด ก็จะช่วยบำรุงน้ำนมได้เป็นอย่างดี และยังอร่อยอีกด้วยค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินตำลึง ได้หรือไม่ ช่วยเพิ่มน้ำนมได้จริงหรือ

รับประทานกุยช่ายอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด

อย่างที่คุณแม่ทราบว่ากุยช่ายให้ประโยชน์มากมาย เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ คุณแม่ควรเลือกซื้อ และเก็บถนอมกุยช่ายสดได้ ตามวิธีดังต่อไปนี้

• เลือกซื้อกุยช่ายจากร้านค้าที่สะอาด ปลอดภัย และปราศจากสารพิษ โดยคุณแม่ควรนำกุยช่ายมาล้างทำความสะอาด ก่อนนำมาประกอบอาหารทุกครั้ง
• เลือกซื้อกุยช่ายที่สดใหม่ มีใบสีเขียว และมีดอกกุยช่ายสีขาวอยู่บริเวณปลายใบ หากดอกกุยช่ายบานแล้ว แสดงว่าแก่เกินไปค่ะ
• หลีกเลี่ยงการซื้อกุยช่ายที่มีใบลีบ ใบเหี่ยวแห้ง และมีกลิ่นเน่าเสีย
• เก็บกุยช่ายไว้ในช่องแช่ผักผลไม้ โดยใช้กระดาษหรือทิชชูแผ่นใหญ่ ๆ แล้วใส่ถุงพลาสติกซ้อนไว้อีกชั้น ก็จะช่วยให้เก็บกุยช่ายได้นานถึง 3 วันค่ะ
  
  

ข้อควรระวังในการรับประทานกุยช่าย

การรับประทานกุยช่ายที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ คุณแม่ที่ให้นมบุตรสามารถรับประทานผักชนิดนี้ได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป เพราะยังไม่มีข้อมูลที่ยืนยันความปลอดภัยในการรักษาโรค นอกจากนี้ หากคุณแม่รับประทานกุยช่ายมาก ๆ ก็อาจส่งผลให้เกิดอาการร้อนในได้ เนื่องจากกุยช่ายเป็นผักที่มีฤทธิ์ร้อนนั่นเอง

กุยช่าย ถือได้ว่าเป็นผักสมุนไพรที่มีประโยชน์มาก ๆ เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มน้ำนมแล้ว ยังช่วยบำรุงร่างกายของคุณแม่หลังคลอดอีกด้วย อย่างไรก็ตาม คุณแม่ควรรับประทานกุยช่ายในปริมาณที่พอดี ไม่รับประทานมากจนเกินไป และควรเลือกซื้อกุยช่ายจากร้านค้าที่สะอาด และปลอดภัย เพื่อสุขลักษณะที่ดีต่อตัวคุณแม่ และลูกน้อยค่ะ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

หัวปลี มีประโยชน์อะไรบ้าง ช่วยเพิ่มน้ำนมจริงหรือไม่?

น้ำขิง ดีต่อคุณแม่หลังคลอดอย่างไร? ช่วยเพิ่มน้ำนมจริงหรือ?

คนท้องกินแซลมอน ได้ไหม? กินแล้วส่งผลดีต่อลูกในท้องหรือเปล่า

ที่มา : 1 , 2 , 3 , 4