โยคะคนท้อง ดีต่อคุณแม่อย่างไร ช่วยให้คลอดลูกง่ายจริงไหม?

โยคะคนท้อง อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคุณแม่ที่ต้องการออกกำลังกายง่าย ๆ ระหว่างตั้งครรภ์ เพราะนอกจากจะช่วยผ่อนคลาย และเป็นประโยชน์ต่อร่างกายแ 

 1750 views

โยคะคนท้อง อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคุณแม่ที่ต้องการออกกำลังกายง่าย ๆ ระหว่างตั้งครรภ์ เพราะนอกจากจะช่วยผ่อนคลาย และเป็นประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพของลูกน้อยในครรภ์ได้อีกด้วย ทราบไหมคะว่าการเล่นโยคะ ช่วยให้คุณแม่คลอดลูกได้ง่ายขึ้น ถ้าไม่เชื่อ มาดูพร้อมกันได้เลย

โยคะคนท้องมีประโยชน์อย่างไร?

โยคะคนท้องมีประโยชน์ต่อร่างกายคุณแม่เป็นอย่างมาก โดยช่วยให้ร่างกายแข็งแรง บรรเทาอาการต่าง ๆ ระหว่างตั้งครรภ์ และยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพจิตได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยให้ลูกในครรภ์แข็งแรง และเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ โยคะคนท้องยังมีประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

1. ช่วยให้คลอดลูกง่าย

การเล่นโยคะ จะช่วยให้กล้ามเนื้อของคุณแม่ยืดหยุ่น และผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยยึดเส้นเอ็น และข้อต่าง ๆ อีกทั้งยังส่งผลต่อการแข็งตึงของกล้ามเนื้อระหว่างตั้งครรภ์อีกด้วย ส่งผลให้คลอดลูกง่ายขึ้นนั่นเอง

2. บรรเทาอาการต่าง ๆ ระหว่างตั้งครรภ์

เมื่อตั้งครรภ์ คุณแม่จะมีอาการตั้งครรภ์ต่าง ๆ เช่น คลื่นไส้ เป็นตะคริว ปวดกล้ามเนื้อ และเจ็บปวดข้อ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ทุกคน การเล่นโยคะจะช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ เหล่านี้ได้ และยังช่วยให้คุณแม่สบายตัว สบายใจมากยิ่งขึ้น และยังดีต่อลูกน้อยในครรภ์อีกด้วย

3. ช่วยปรับอารมณ์ และจิตใจของคุณแม่

อีกหนึ่งประโยชน์สำหรับการเล่นโยคะคนท้อง คือการช่วยฝึกสมาธิ ปรับอารมณ์ และจิตใจของคุณแม่ โดยจะทำให้คุณแม่อารมณ์ดี ลดอาการเครียด วิตกกังวลจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนได้เป็นอย่างดี

4. ช่วยสร้างสังคมคุณแม่

แน่นอนว่าการเล่นโยคะ จะช่วยให้คุณแม่พบเจอคุณแม่ท่านอื่นที่ตั้งครรภ์เหมือนกัน โดยคุณแม่จะได้พูดคุย และแลกเปลี่ยนความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวข้องลูกน้อยในครรภ์ ก็จะช่วยสร้างสังคม และทำให้คุณแม่ได้เตรียมพร้อมในการเป็นแม่มือใหม่ได้ดีอีกด้วย

5. ช่วยให้ฟื้นฟูร่างกายหลังคลอดได้เร็วขึ้น

เมื่อคุณแม่คลอดลูก การเล่นโยคะจะช่วยให้คุณแม่กลับมามีรูปร่างแบบเดิมได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยปรับลดหน้าท้อง ปรับระบบขับถ่าย และระบบหมุนเวียนเลือกให้เป็นปกติได้อีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง : อยู่ไฟหลังคลอดคืออะไร ยังจำเป็นอยู่ไหมสำหรับคุณแม่ยุคใหม่ ?

โยคะคนท้อง

สำหรับคุณแม่ที่ไม่เคยเล่นโยคะมาก่อน ควรเริ่มเรียนรู้ท่าทางต่าง ๆ กับผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ โดยคุณแม่ควรเลือกคลาสเรียนโยคะที่เหมาะสมกับตัวเอง โดยต้องทำให้คุณแม่รู้สึกสะดวกสบาย และไม่อึดอัดระหว่างการเรียน ส่วนคุณแม่ที่เคยเรียนโยคะมาบ้างแล้ว อาจศึกษาเพิ่มเติมได้จากหนังสือ หรือยูทูบ แล้วทดลองฝึกตามเองได้ โดยคุณแม่ควรเริ่มเล่นโยคะ ดังต่อไปนี้

เริ่มเล่นโยคะคนท้องอย่างไรดี?

  • ปรึกษาแพทย์ : คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเล่นโยคะเสมอ เพราะหากคุณแม่ใกล้คลอด หรือมีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับหลัง หรือหัวใจ ก็อาจยากลำบากต่อการเล่นได้
  • ตั้งเป้าหมายในการเล่นโยคะ : เมื่อคุณแม่เริ่มเล่นโยคะ ควรตั้งเป้าหมายในการออกกำลังกาย โดยเล่นอย่างน้อยวันละ 30 นาที หรือน้อยกว่านั้น ซึ่งจะช่วยเตรียมความพร้อมในการคลอดลูกได้เป็นอย่างดี
  • ค่อย ๆ เริ่มเล่น อย่าหักโหมจนเกินไป : ในการเล่นโยคะ คุณแม่ควรระมัดระวัง อย่าออกกำลังกายหักโหมจนเกินไป และควรขยับเปลี่ยนท่าทางอย่างช้า ๆ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
  • รักษาอุณหภูมิ และสมดุลน้ำในร่างกาย : พยายามหลีกเลี่ยงการทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงจนเกินไป และควรเล่นในบริเวณที่ไม่ร้อน อากาศถ่ายเทสะดวก นอกจากนี้คุณแม่ควรดื่มน้ำมาก ๆ ก่อนเล่น และหลังเล่นโยคะอีกด้วย

เคล็ดลับการเล่นโยคะคนท้อง

ในการเล่นโยคะคนท้อง คุณแม่ควรเล่นอย่างเหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่ดี และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น โดยคุณแม่ควรโยคะตามคำแนะนำของแต่ละไตรมาส ดังต่อไปนี้

ไตรมาสแรก

  • ปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนการเล่นโยคะเสมอ
  • หายใจเข้าลึก ๆ ในระหว่างการยืดเหยียดตัวด้วยท่าต่าง ๆ
  • ดื่มน้ำมาก ๆ ก่อนเล่น และหลังเล่นโยคะ หรือระหว่างการเล่นเสมอ
  • ปรึกษาครูผู้สอน หากคุณแม่รู้สึกอึดอัด เจ็บปวด หรือไม่สบายตัวขณะเล่นโยคะ

ไตรมาสที่ 2

  • ระมัดระวังเรื่องการทรงตัว
  • ไม่ค้างแต่ละท่านานจนเกินไป
  • ใช้หมอนหนุนช่วงบนของร่างกาย หากอยู่ในท่านอนราบ
  • ไม่หักโหมมากจนเกินไป และไม่ควรฝืนเล่นท่าที่ทำให้เกิดความเจ็บปวด
  • ค่อย ๆ เปลี่ยนท่าทางเวลาเล่น เพราะในช่วงนี้ข้อต่อต่าง ๆ อาจมีการหลวมขึ้น

ไตรมาสที่ 3

  • ขยับร่างกายเรื่อย ๆ ไม่ค้างอยู่ท่าเดียวเป็นเวลานาน
  • ยืนพิงหลังกำแพง หรืออาจใช้เก้าอี้ทรงตัว เมื่อทำท่ายืน
  • สามารถใช้อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เช่น สายรัด หรือแท่งไม้ เพื่อช่วยให้เคลื่อนไหวง่ายขึ้น

ท่าเล่นแนะนำในการเล่นโยคะคนท้อง

1. ท่าสควอท

คุณแม่สามารถทำท่านี้ได้โดยการยืนหันหน้าเข้าหาด้านหลังของเก้าอี้ จากนั้นแยกปลายเท้าออกจากกัน แล้วค่อย ๆ กางขาออกให้กว้างกว่าสะโพก แล้วจับพนักเก้าอี้ไว้ เกร็งหน้าท้อง ยกอก คลายหัวไหล่ และหย่อนก้นลง ทิ้งน้ำหนักลงที่ส้นเท้า ละค้างเท่าที่ทนไหม ก็จะช่วยเปิดกระดูกเชิงกราน และช่วยทำให้ต้นขาแข็งแรงมากขึ้น

2. ท่านั่งผีเสื้อ

เริ่มต้นจากการนั่งขัดสมาธิ หลังตรงพิงผนัง แล้วใช้ฝ่าเท้าประกบกัน ค่อย ๆ กดเข่าลงในแนวราบ แล้วค้างอยู่ในท่านี้เท่าที่ทนไหว คุณแม่สามารถใช้เสื้อโยคะ หรือผ้านวม แล้ววางหมอนรอง เพื่อป้องกันสะโพกแอ่นมากเกินไปได้ โดยท่านี้จะช่วยเปิดกระดูกเชิงกรานได้ดี

3. ท่านอนตะแคง

สำหรับท่าโยคะนี้ เป็นการนอนตะแคงข้างใดข้างหนึ่ง จากนั้นวางศีรษะบนแขนหรือผ้าห่ม แล้วใช้หมอนรองวางระหว่างต้นขา ก็จะช่วยประคองสะโพกได้ โดยท่านี้คุณแม่สามารถฝึกลมหายใจไปด้วยได้ ซึ่งเหมาะเป็นท่าจบของการเล่นโยคะคนท้องมากที่สุด

4. ท่าบริหารกระดูกเชิงกราน

ให้คุณแม่วางฝ่ามือ และเข่าลงบนพื้น จากนั้นเหยียดแขนตรง โดยไม่เกร็งข้อศอก แล้วค่อย ๆ โก่งตัวงอหลังขึ้น พร้อมกับหายใจเข้า จากนั้นกลับมาที่ท่าเดิม ทำซ้ำ ๆ เท่าที่ตั้งเป้าไว้ ก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดหลังของคุณแม่ได้ค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : 7 สัญญาณเตือนก่อนคลอด มีอาการอะไรบ้างที่คุณแม่ห้ามพลาด

โยคะคนท้อง

ข้อควรระวังในการเล่นโยคะคนท้อง

สำหรับการเล่นโยคะคนท้อง ก็มีข้อควรระมัดระวังเช่นเดียวกับการออกกำลังกายประเภทอื่น ๆ โดยหากคุณแม่ไม่ระวังตัว ก็อาจเกิดอาการบาดเจ็บที่อันตรายต่อตัวเอง และลูกน้อยในครรภ์ได้ สำหรับข้อควรระวังในการเล่นโยคะคนท้อง มีดังนี้

  • ไม่เล่นท่าที่ต้องทรงตัวโดยใช้ศีรษะ และหัวไหล่
  • หลีกเลี่ยงการเล่นท่าที่ต้องยึดกล้ามเนื้อหน้าท้อง
  • หลีกเลี่ยงการเล่นท่านอนราบ
  • พยายามไม่เล่นโยคะคนท้องในที่ร้อน ๆ
  • อย่าหักโหมจนเกินไป

สำหรับคุณแม่ที่ต้องการเล่นโยคะคนท้อง ควรปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนเป็นอันดับแรก เพราะคุณแม่บางคนอาจมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ หรือหลัง ซึ่งอาจส่งผลต่อร่างกายได้ ซึ่งหากคุณแม่ได้ปรึกษากับแพทย์แล้ว ก็ควรเลือกคลาสเรียนที่เหมาะสมกับตนเอง และควรเล่นท่าที่เหมาะสมกับร่างกาย ที่สำคัญคือไม่ควรหักโหมมากจนเกินไป เพราะอาจส่งผลร้ายต่อร่างกายคุณแม่ และลูกน้อยในครรภ์ได้

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

6 ประโยชน์ของน้ำสะอาด ที่คุณแม่ตั้งครรภ์อาจไม่รู้

5 วิธีแก้คลื่นไส้อาเจียน ปัญหาน่าปวดหัวของคุณแม่ตั้งครรภ์

เบาหวานขณะตั้งครรภ์ อันตรายอย่างไร เสี่ยงต่อลูกในท้องหรือไม่?

ที่มา : 1, 2, 3