กะทิถือว่าเป็นหนึ่งในส่วนผสมที่ค่อนข้างสำคัญมาก ๆ ด้วยรสชาติของกะทิที่มีรสชาติมันกลมกล่อม อีกทั้งยังสามารถนำมาทำเป็นเมนูอาหารทั้งของหวานและของคาวก็ได้ เพราะฉะนั้นกะทิจึงเป็นอะไรที่คนส่วนใหญ่นั้นชื่นชอบ หากคุณแม่คนไหนที่กำลังชื่นชอบกะทิอยู่เหมือนกัน และอยากทราบว่าเราสามารถกินกะทิในช่วงตั้งครรภ์ได้ไหม เอาเป็นว่าเรามาไขข้อสงสัยพร้อมคำตอบว่า คนท้องกินกะทิได้ไหม ไปพร้อมกันเลยนะคะ
แม่ท้องกินกะทิได้ไหม? กินแล้วส่งผลอย่างไรบ้าง
แน่นอนค่ะว่ากะทิเป็นส่วนผสมที่ทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว ซึ่งต้องบอกเลยนะคะว่ากะทิเป็นสิ่งที่คุณแม่สามารถกินได้ตามปกติเลย แต่ในการกินนั้นคุณแม่ก็อาจจะต้องระวังในเรื่องของปริมาณตามไปด้วย เพราะกะทิค่อนข้างมีไขมันสูงอยู่เหมือนกัน หากเรากินในปริมาณมากโดยที่ไม่ได้ทำการควบคุมสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ตามไปด้วย ผลที่ตามมาอีกอย่างเลยก็คือ อาจจะทำให้คุณแม่มีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น หรืออ้วนได้ง่ายเลยล่ะค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินโยเกิร์ตได้ไหม ช่วยบำรุงครรภ์ได้จริงหรือไม่?
กินกะทิแล้วส่งผลดีอย่างไร? มาดูประโยชน์ของกะทิกัน
การที่เรากินกะทิเข้าไปแล้วนั้น เชื่อว่าหลายคนก็อาจจะกินเพียงเพราะความอร่อย แต่ก็ยังไม่ทราบกันดีว่ากะทิที่เรากินเข้าไปนั้นมีประโยชน์และมีอะไรที่ส่งผลดีต่อร่างกายของเราได้บ้าง หากใครที่อยากจะทราบกันแล้วล่ะก็ เรามาดูประโยชน์ของกะทิไปพร้อมกันเลยดีกว่า
1. ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง
การที่เรากินกะทิเข้าไป บอกเลยค่ะว่านอกจากความอร่อยที่เราจะได้รับไปแล้วนั้น กะทิยังเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่จะช่วยป้องกันโรคมะเร็งให้กับเราได้ เพราะภายในกะทิจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ร่างกายของเราแข็งแรง ไม่เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งนั่นเองค่ะ
2. ช่วยต่อต้านเชื้อไวรัส
นอกเหนือจากนี้การที่เรากินกะทิเข้าไปในปริมาณที่พอเหมาะ สิ่งนี้ยังช่วยต่อต้านเชื้อไวรัสและป้องกันเชื้อแบคทีเรียชนิดต่าง ๆ ให้กับร่างกายของเราได้ดีมาก ๆ เลย เพราะฉะนั้นหากใครที่อยากเป็นคุณแม่ที่มีสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น เราก็อาจจะต้องหันมากินกะทิบ้างนะคะ แต่ในการกินนั้นเราก็อาจจะต้องกินให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะจะดีกว่าค่ะ
3. ช่วยลดการสะสมของไขมัน
ประโยชน์ของกะทิอีกหนึ่งอย่างที่เราไม่ควรมองข้ามเลยนั่นคือ การกินกะทิจะช่วยลดการสะสมไขมันภายในร่างกายให้กับเราได้ โดยจะเข้าไปดูดซึมไขมันตามส่วนต่าง ๆ ภายในร่างกายของเราเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานนั่นเองค่ะ บอกเลยว่าเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ เลยล่ะค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : โอเมก้า 6 ได้จากอะไรบ้าง? สารอาหารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อแม่ท้อง!
4. ช่วยในเรื่องของการเผาผลาญ
สิ่งที่ดีต่อมาเลยคือ การที่เรากินกะทิเข้าไปแล้วนั้น สิ่งนี้จะเข้ามาเป็นตัวช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหาร และระบบเผาผลาญที่ดีให้กับร่างกายของเราได้มาก ๆ เลย เพราะฉะนั้นใครที่ค่อนข้างมีปัญหาในเรื่องของระบบการเผาผลาญเราก็อาจจะหันมากินกะทิกันให้มากขึ้นนะคะ
สิ่งที่ควรระวังในการกินกะทิคืออะไรบ้าง?
ก่อนที่เราจะตัดสินใจกินกะทินั้น อย่างที่รู้กันดีค่ะว่ากะทิเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ก็จริง แต่ถ้าเราอยากจะให้สิ่งที่เรากินเข้าไปนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายมากยิ่งขึ้น เราก็อาจจะต้องดูรายละเอียดหรือสิ่งต่าง ๆ ตามไปด้วย เพื่อที่สิ่งที่เรากินเข้าไปนั้นจะได้มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราได้มากที่สุด ส่วนจะต้องระวังอะไรบ้าง มาดูกันเลยนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินมาม่าได้ไหม อาหารกันตาย อันตรายต่อแม่ท้องหรือเปล่า ?
1. น้ำกะทิมีแคลอรี่สูง
ถึงแม้กะทิจะเป็นส่วนผสมที่อร่อย และมีประโยชน์ต่อร่างกายเราในหลาย ๆ ด้าน แต่ก็ต้องบอกคุณแม่ก่อนนะคะว่าน้ำกะทิที่เราเห็นกันอยู่นั้นก็ค่อนข้างมีแคลอรี่สูงอยู่เหมือนกัน และเมื่อไหร่ที่คุณแม่กินกะทิเข้าไปในปริมาณมาก สิ่งที่ตามมาก็อาจจะไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพของคุณแม่สักเท่าไหร่ และที่สำคัญคุณแม่ก็อาจจะต้องพยายามหลีกเลี่ยงเมนูอาหารที่เน้นกะทิมากจนเกินไปด้วยนะคะ
2. อาจปนเปื้อนสารเคมี
สิ่งที่คุณแม่อาจจะต้องระวังต่อมาเลยคือ กะทิหรือน้ำกะทิที่เรากินเข้าไปนั้น อาจจะมีสารบีสฟินอลเอปนเปื้อนอยู่ด้วย โดยสารเคมีชนิดนี้เป็นสารที่เคลือบอยู่ในกระป๋อง หากเมื่อไหร่ที่สารชนิดนี้เกิดการปนเปื้อนในอาหาร สิ่งที่ตามมาก็อาจจะทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งได้เลย เพราะฉะนั้นเราควรต้องระวังให้มาก ๆ เลยนะคะ
3. ระวังอาการแพ้
สิ่งที่เราอาจจะต้องดูต่อมาเลยคือ เรื่องของอาการแพ้ เพราะฉะนั้นในช่วงระหว่างที่เรากินน้ำกะทิ หรือกะทิเข้าไปอยู่นั้น เราอาจจะต้องคอยสังเกตอาการดูด้วยว่า มีอาการที่ผิดปกติเกิดขึ้นหลังจากที่เรากินกะทิเข้าไปหรือเปล่า หากเมื่อไหร่ที่เราเริ่มมีอาการที่ผิดปกติไปจากเดิม สิ่งนี้ก็อาจจะกำลังบ่งบอกเราได้ค่ะว่า เรากำลังมีอาการแพ้กะทิเกิดขึ้นนั่นเอง
4. มีโรคประจำตัว
ก่อนที่เราจะเลือกกินกะทิ คุณแม่อาจจะต้องดูก่อนนะคะว่าเรามีโรคประจำตัวอะไรหรือเปล่า หรือทางที่ดีเราก็อาจจะต้องทำการปรึกษาคุณหมอก่อนจะดีกว่านะคะว่า เราสามารถกินกะทิได้จริงไหม เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่เรามีโรคประจำตัว และเผลอกินกะทิเข้าไป สิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลอันตรายต่อร่างกายเราเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นอาจจะต้องคอยระวังเรื่องนี้กันด้วยนะคะ
เคล็ดลับ! เก็บกะทิให้ได้นาน ๆ ทำอย่างไรดี?
หลายคนก็คงอยากรู้กันแล้วใช่ไหมคะว่า การที่เราแกะกะทิออกมาใช้ แต่กะทิที่เราแกะออกมานั้นยังไม่หมด เราควรมีวิธีการเก็บกะทิอย่างไรบ้าง เพื่อที่เราจะได้เก็บกะทิที่เหลือไว้กินได้นาน ๆ หากใครที่กำลังมองหาวิธีการเก็บอยู่แล้วล่ะก็ เรามาดูเคล็ดลับไปพร้อมกัน
เลยนะคะ
1. ทำการต้มกะทิ
อย่างแรกเลยให้เรานำกะทิส่วนที่เหลือเทลงมาในหม้อที่เตรียมไว้ จากนั้นก็ทำการต้มกะทิไปเรื่อย ๆ จนกะทิเริ่มเดือด ซึ่งขั้นตอนการต้มนั้น เราทำการต้มเพื่อเป็นการกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ชนิดต่าง ๆ ที่อาจเกิดการปนเปื้อนมากับน้ำกะทินั่นเองค่ะ
2. ทิ้งไว้ให้เย็น
เมื่อกะทิเริ่มเดือดให้เราทำการปิดเตา จากนั้นก็นำกะทิที่ผ่านการต้มแล้ว มาตั้งทิ้งไว้ให้เย็น ซึ่งขั้นตอนการปล่อยทิ้งไว้นั้น เราไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นานจนเกินไป เพราะไม่อย่างนั้นสิ่งนี้ก็อาจจะทำให้กะทิเกิดการเน่าเสียได้ง่ายเหมือนกัน
3. ใส่ในภาชนะ
ขั้นตอนต่อมาเมื่อกะทิที่เรานำไปต้มเริ่มเย็น ให้เราเทน้ำกะทิใส่ลงในภาชนะ หรือขวดโหลที่เราเตรียมไว้ จากนั้นก็ทำการปิดฝาภาชนะ หรือขวดโหลให้เรียบร้อย พร้อมกับนำไปแช่ตู้เย็นได้เลย เพียงเท่านี้เราก็จะเก็บน้ำกะทิไว้ได้นานมากขึ้นเลยล่ะค่ะ
หลังจากที่เราได้พาคุณแม่มาทำความรู้จักกับน้ำกะทิ หรือกะทิกันมากขึ้นแล้วนั้น ต้องบอกว่าสิ่งนี้เป็นอะไรที่ค่อนข้างมีประโยชน์ต่อร่างกายไม่แพ้วัตถุดิบอื่น ๆ เลย และที่สำคัญไปกว่านั้นยังเป็นสิ่งที่มีรสชาติอร่อยและขาดไม่ได้เลย เอาเป็นว่าคุณแม่คนไหนที่กำลังสงสัยอยู่ในตอนนี้ว่า เรากินกะทิในช่วงการตั้งครรภ์ได้ไหม อย่ารอช้าเพราะวันนี้เรามีคำตอบแล้วค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องกินน้ำมะเขือเทศได้ไหม เป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์หรือไม่? มาดูกัน
สาระน่ารู้ ! คนท้องกินน้ำผึ้งได้ไหม อยากน้ำหวานทานน้ำผึ้งแทนได้หรือเปล่า ?
คนท้องกินยำได้ไหม ? อาหารรสแซ่บ นัว อันตรายต่อแม่ท้องและลูกน้อยหรือเปล่า?