สาเหตุของ วุ้นในตาเสื่อม เกิดจากอะไร รักษาอย่างไรได้บ้าง?

ปัญหาในเรื่องของดวงตา ถือเป็นสิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญมาก ๆ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุเพิ่มมากขึ้น ดวงตาก็อาจจะเริ่มเสื่อมตามช่วงอายุลงไป ซึ่ง 

 627 views

ปัญหาในเรื่องของดวงตา ถือเป็นสิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญมาก ๆ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุเพิ่มมากขึ้น ดวงตาก็อาจจะเริ่มเสื่อมตามช่วงอายุลงไป ซึ่งหนึ่งในปัญหาที่เกี่ยวกับดวงตาที่เกิดขึ้นบ่อยก็คือ วุ้นในตาเสื่อม นั่นเองค่ะ ซึ่งปัญหานี้ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นกับคนที่มีอายุมาก แต่ปัจจุบันนั้นสามารถเกิดขึ้นได้บ่อยสำหรับคนที่ต้องใช้สายตาอย่างหนัก เช่น ทำงานอยู่หน้าจอคอมเป็นเวลานาน ทำให้ใช้สายตาหนัก ทำให้ส่งผลเสียต่อดวงตาทำให้เกิดวุ้นในตาเสื่อมได้ ดังนั้น บทความในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักเกี่ยวกับโรควุ้นในตาเสื่อมให้มากยิ่งขึ้น ว่าจะมีอาการอย่างไร และสาเหตุวุ้นในตาเสื่อมเกิดจากปัจจัยอะไรได้บ้าง และมีวิธีการรักษายังไง เราจะมาคลายข้อสงสัยเหล่านี้ไปพร้อม ๆ กันค่ะ



วุ้นในตาเสื่อม เกิดจากอะไร?

โดยปกติแล้ว ลูกตาจะมีวุ้นตาอยู่ภายในช่องตา ซึ่งถ้าหากเกิดวุ้นในตาเสื่อมขึ้น ก็จะมีลักษณะคล้ายเจล จะมีความหนืด และใสอยู่ภายในโพรงลูกตา และเกิดเป็นตะกอนขนาดเล็กลอยอยู่ในดวงตา ซึ่งมีชื่อเรียกภาวะนี้ว่า Posterior Vitreous Detachment (PVD) ก็คือการหลุดลอกของวุ้นตาที่อยู่เป็นวงรอบขั้วประสาทตานั่นเองค่ะ ซึ่งวุ้นในตาเสื่อมนั้นเกิดได้หลากหลายสาเหตุมาก ๆ และมักจะพบได้บ่อยในวัยกลางคนไปจนถึงผู้สูงอายุ เพราะความเสื่อมตามวัย ก็ถือเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด, ภาวะเบาหวานขึ้นจอตา (Diabetic Retinopathy), พฤติกรรมการติดจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมเพอร์ และโทรศัพท์ หรืออาจจะเกิดจากการอักเสบในวุ้นตา และจอตา หรือเกิดจากอุบัติเหตุ หรือโรค ที่ส่งผลให้มีความผิดปกติของหลอดเลือด ทำให้เลือดออกในน้ำวุ้นตาได้ ซึ่งการเกิดวุ้นในตาเสื่อมสามารถเกิดขึ้นในตาข้างเดียว หรือทั้งสองข้างก็ได้เช่นเดียวกัน





อาการของ วุ้นในตาเสื่อม


วุ้นในตาเสื่อม

เห็นจุดดำลอยไปมาในตาเป็นจำนวนมากที่เกิดจากการเสื่อมของวุ้นตา เวลาที่มองเห็น จะเป็นการมองไปที่พื้นที่สว่าง เช่น ผนังสีขาว หรือท้องฟ้า โดยจะมีลักษณะรูปร่างหลายแบบ เช่น วงกลม หยากไย่ เป็นต้น

เกิดความผิดปกติในการมองเห็นอาจจะมีการเห็นเงามาบังตาบางส่วน ทำให้ประสิทธิภาพการมองเห็นลดลง

เห็นแสงวาบในตาในตา เหมือนแสงฟ้าแลบ หรือแสงไฟ โดยจะเห็นเป็นระยะเวลาสั้น ๆ

จอประสาทตาฉีกขาดหรือการหลุดลอกของจอตา ในกรณีนี้จะพบได้น้อยมาก ถ้าหากเกิดขึ้นจะต้องได้รับการรักษาด่วนที่สุด เพราะอาจจะส่งผลทำให้สูญเสียการมองเห็นได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : มาดู น้ำตาลในเลือดผิดปกติ ภาวะที่พบได้บ่อยในเด็กทารกแรกเกิด




การตรวจวินิจฉัยวุ้นในตาเสื่อม


วุ้นในตาเสื่อม


สำหรับการวินิจฉัยโรควุ้นในตาเสื่อม เมื่อไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แพทย์ก็อาจจะมีการสอบถามประวัติ และอาการผู้ป่วย จากนั้นก็จะทำการตรวจสอบตา และประสิทธิภาพการมองเห็น โดยจะใช้กล้องตรวจตา (Slit Lamp) หลังจากนั้น ก็จะทำการหยอดยาลงบนตา เพื่อขยายรูม่านตา จากนั้นแพทย์จะทำการตรวจจอตา และวุ้นตาที่เกิดขึ้น และแพทย์ก็จะสามารถระบุได้ว่าผู้ป่วยนั้นมีความผิดปกติอื่น ๆ เพิ่มเติมหรือไม่ และสาเหตุที่ทำให้วุ้นในตาเสื่อมนั้นเกิดจากปัจจัยอะไร และจะได้รักษาในขั้นตอนที่เหมาะสมต่อไป





วิธีการรักษาวุ้นในตาเสื่อม


สำหรับการรักษาวุ้นในตาเสื่อมนั้นจะไม่มียาหยอดตา  หรือยารับประทานที่รักษาได้ในส่วนของวิธีการรักษานั้นจะแบ่งออกเป็น 2 วิธี เนื่องจากวุ้นตาเสื่อมนั้นไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายมาก อาจจะแค่ทำให้เกิดการรำคาญเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าวุ้นในตาเสื่อมนั้นเกิดทำให้รู้สึกรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หรือส่งผลเสียให้ประสิทธิภาพการมองเห็นลดลง แพทย์อาจจะทำการรักษาดังนี้



การผ่าตัดวุ้นตา (Vitrectomy)

สำหรับการผ่าตัดวุ้นตานั้นจะเป็นผ่าตัดเพื่อนำวุ้นตาออกไป ทดแทนวุ้นตาด้วยสารละลายน้ำเกลือ (Saline) และวุ้นตาก็สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้หลังจากการผ่าตัด แต่การผ่าตัดอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้นได้ เช่น จอตาฉีกขาด, จอตาลอก หรือเลือดออกในตา เป็นต้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : ต้อกระจก อาการเป็นอย่างไร อันตรายไหม รักษาด้วยวิธีใดได้บ้าง?




การทำเลเซอร์

สำหรับการทำเลเซอร์ในการแก้ปัญหาวุ้นตาเสื่อม ถือเป็นวิธีที่ง่าย และปลอดภัยกว่าการผ่าตัด ซึ่งในเรื่องของความปลอดภัยยังไม่เป็นที่แน่ชัด เพราะบางรายอาจจะสามารถทำให้การมองเห็นดีขึ้นได้ แต่บางรายก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร แต่ก็อาจจะมีความเสี่ยงทำให้จอประสาทตาเสียหายได้ หากไม่ได้ทำการรักษาอย่างถูกต้อง




การป้องกันวุ้นตาในเสื่อม


  • ควรตรวจสุขภาพดวงตาอย่างน้อยปีล่ะ 1 ครั้ง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เนื่องจากเมื่อเริ่มมีอายุเพิ่มมากขึ้น ก็จะยิ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดวุ้นในตาเสื่อม
  • ควรหลีกเลี่ยงการใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่มีหน้าจอ และการอ่านหนังสือ อยู่ในที่ที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ
  • ไม่ควรใช้สายตาหนักต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ควรหาเวลาพักสายตาทุก 20 นาที


เป็นอย่างไรกันบ้างคะข้อมูลเกี่ยวกับ วุ้นในตาเสื่อม ที่เรานำมาฝากกัน ซึ่งโรคนี้นั้นจะเกิดขึ้นได้บ่อยกับคนสูงอายุ แต่ปัจจุบันนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับบุคคลทั่วไป เนื่องจากสำหรับบางคนนั้นทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ และจ้องจอโทรศัพท์เป็นเวลานาน ก็อาจจะส่งผลเสียทำให้วุ้นในตาเสื่อมก่อนวัยได้  

แล้วก็สำหรับโรควุ้นในตาเสื่อม ถือเป็นที่เกิดจากธรรมชาติ สำหรับคนที่มีอาการมองเห็นเงาดำลอยไปลอยมา จะไม่ถือเป็นอันตราย เพราะเงาดำที่เกิดขึ้นนั้นจะค่อย ๆ หายไปเอง แต่ถ้าหากเกิดรอยฉีกขาดของจอประสาทตา หรือรู้ว่ามีอาการแทรกซ้อนเกิดขึ้นจนทำให้ส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตประจำวันในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การอ่านหนังสือ หรือการขับขี่ยานพาหนะ เป็นต้น ควรเข้ารับการรักษากับจักษุแพทย์ทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นะคะ เพื่อที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะได้ทำการวินิจฉัย และทำการรักษาอย่างเหมาะสม หวังบทความในวันนี้จะเป็นประโยชน์ให้สำหรับทุกคนนะคะ




บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ต้อลม อันตรายมากแค่ไหน รักษาให้หายขาดได้หรือไม่? 

“ขอบตาดำคล้ำ” เกิดจากอะไร? ปัญหาที่ใครหลายคนไม่ควรมองข้าม!

ตาแดง เกิดจากอะไร คุณแม่รับมืออย่างไรเมื่อลูกมีอาการตาแดง?

ที่มา : 1, 2, 3