เพราะในทุกเมนูอาหาร มักมีส่วนประกอบไปด้วย ผักชี หรือ Coriander หนึ่งในผักยอดฮิตที่มีกลิ่นเฉพาะตัว แถมยังมีประโยชน์ซ่อนอยู่ด้วย แต่ถ้าตอนนั้นอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ ขึ้นชื่อว่าเป็นช่วงที่ต้องระวังอย่างมาก จึงมีคำถามตามมาว่า “คนท้องกินผักชีได้ไหม” เพื่อไม่ให้เป็นกังวลไปมากกว่าเดิม วันนี้ Mamastory มีคำตอบมาให้แล้วค่ะ หากคุณแม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการกินผักชี อ่านหาคำตอบได้จากบทความนี้กันเลย !
ตอบคำถาม คนท้องกินผักชีได้ไหม
บอกก่อนว่าผักชี เป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่เจอบ่อย ไม่ว่าจะเมนูไหนก็เจอตลอด เรียกได้ว่าหาทานง่าย แถมคนไทยคุ้นเคยตั้งแต่เล็ก โดยทั่วไปแล้ว คนท้องสามารถทานผักชีได้ค่ะ แต่ก็มีข้อควรระวังอยู่บ้าง ในแม่ท้องบางรายที่มีอาการแพ้ เช่น แม่ท้องที่แพ้ผักตระกูลผักชี หรือ แม่ท้องที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวข้อง ดังนั้นก่อนทานอาหารหรือเมนูไหน ๆ หากอยู่ในช่วงของการตั้งครรภ์ แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งค่ะ
โดยทั่วไปแล้ว ผักชี เป็นหนึ่งในอาหาร ที่จะช่วยเสริมสร้างร่างกายได้ ทั้งยังช่วยในการป้องกันโรค และช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ที่รวมไปถึงระบบไหลเวียนโลหิตได้เป็นอย่างดีค่ะ แต่ต้องทานอย่างเหมาะสม เพราะในบางครั้ง ร่างกายของคนท้องมักแปรปรวน วันนี้ทานได้ แต่วันพรุ่งนี้อาจจะทานไม่ได้ก็เป็นได้ เพราะผักชีเป็นหนึ่งในผักที่ขึ้นชื่อว่า มีกลิ่นเฉพาะตัว
นอกจากการทานอาหาร หรือเมนูใดที่เหมาะสมแล้ว ในช่วงของการตั้งครรภ์ ตลอดระยะเวลา 9 เดือนนั้น การรับประทานเมนูอาหารที่หลากหลาย เน้นการทานที่ได้รับครบทั้ง 5 หมู่ ประกอบกับการดูแลตัวเองที่ดี ทั้งในเรื่องของการพักผ่อน การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ย่อมปลอยภัย และสำคัญต่อแม่ท้องค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินแกงไตปลาได้ไหม อาหารใต้กินแล้วมีประโยชน์อย่างไร?
สารอาหารที่อยู่ในผักชี
โดยปกติแล้ว การทานผักชีในแต่ละมื้ออาหาร มักจะมาในรูปแบบของ วัตถุดิบส่วนเล็ก ๆ เท่านั้น ไม่ใช่วัตถุดิบหลัก ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ไม่ได้มีเมนูไหนที่ใช้ปริมาณมากพอ ที่จะให้พลังงานสูงถึง 25 กิลโลแคลอรี จึงไม่จำเป็นต้องกังวลว่า การทานผักชีที่มากไป จะส่งผลเสียต่อร่างกาย หากในแต่ละมื้ออาหารนั้น ยังคงประกอบไปด้วยส่วนผสมอื่น เช่น เนื้อสัตว์ หรือ น้ำมันจากสัตว์ นั่นต่างหากที่ต้องกังวลว่า อาจจะได้พลังงานลบแฝงมาด้วย
ส่วนสารอาหารที่พบในผักชี มีมากหลายชนิด เช่น คาร์โบไฮเดรต, โปรตีน, ใยอาหาร, โพแทสเซียม, วิตามิน A และ B การรับประทานผักชีในมื้ออาหาร นอกจากจะให้คุณค่าที่ครบถ้วนแล้ว ในช่วงที่กำลังตั้งครรภ์ ก็ยิ่งช่วยให้ได้รับสารอาหารที่มากขึ้น ถึงแม้จะไม่ได้เจาะจงทางใดทางหนึ่ง แต่ก็ถือว่าช่วยในการโภชนาการ ที่เน้นในการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ค่ะ
ประโยชน์ของผักชี
- ช่วยบำรุงระบบไหลเวียนโลหิต : การกินผักชี จะช่วยในส่วนของการ ควบคุมำขมันในเส้นเลือด และน้ำตาลในเส้นเลือด ช่วยลดโอกาสในโรคทางหัวใจ และหลอดเลือดได้ดี
- ช่วยบรรเทาอาการป่วยเบื้องต้น : เมนูที่ประกอบด้วยผักชี จะช่วยขับเหงื่อ แก้หวัด และลดอาการไอได้ดี แต่ไม่ควรมองว่าผักชีเป็นยารักษาโรค หากป่วยก็ควรรักษาให้ถูกวิธี
- ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร : หากทานแต่พอดี ผักชีถือว่าเป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยแก้ปัญหาเรื่องท้องผูกกับคนท้องได้
- ช่วยป้องกันโรคแฝง : ผักชีมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันได้หลายโรค และยังช่วยบำรุงสายตา บรรเทาอาการวิงเวียน
ผักที่คนท้องไม่ควรกินดิบ
1. กะหล่ำปลี
เนื่องจากเป็นผักในตระกูลที่มี สารกอยโตรเจน (Goitrogen) หากทานในปริมาณที่มากเกินไป จะขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ ในแง่ของการจับไอโอดีน เสี่ยงต่อโรคคอหอยพอก และยังทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติ เนื่องจากนำไอโอดีนในเลือด ไปใช้ได้น้อยเกินไป เพื่อความปลอดภัยของแม่ท้องแล้ว จึงควรทำให้กะหล่ำปลีสุกก่อนทาน
2. ถั่วงอก
เพราะในถั่วงอกมีสารไฟเตต ที่ขัดขวางการดูดซึมแคลเซียม, เหล็ก, สังกะสี และอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย ดังนั้นเมื่ออยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หากนิสัยเดิมชอบเติมถั่วงอกดิบ ระหว่างที่ทานก๋วยเตี๋ยว หรือขนมจีนน้ำยา ควรที่จะลดในช่วงนี้ค่ะ
3. ถั่วฝักยาว
เพราะในถั่วฝักยาวดิบ มีแก๊สค่อนข้างสูง โดยเฉพาะแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ แก๊สที่ทำให้ท้องอืด อึดอัดแน่นท้อง จึงอาจเป็นอันตรายต่อแม่ท้อง ที่เมื่อทานไปแล้วรู้สึกไม่สบายตัวได้ค่ะ
4. ผักโขม
ถึงแม้ว่าในผักโขม จะมีไฟเบอร์สูง แต่ก็ไม่ควรทานแบบดิบค่ะ เพราะในผักโขมมี กรดออกซาลิก (Oxalic Acid) เป็นกรดอินทรีย์ที่จะส่งผลให้มีการขับสังกะสี แคลเซียมออกจากร่างกายมาก จนอาจทำให้เกิดภาวะขาดแคลนแคลเซียม และสังกะสี นอกจากนี้ยังไปขัดขวาง การดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกายอีกด้วย
5. หน่อไม้
เพราะการกินหน่อไม้ที่ดี และกินให้อร่อยได้ประโยชน์ ควรที่จะทานตอนที่ ทำให้สุกแล้วเท่านั้น เพราะในหน่อไม้ดิบ จะมีสารไซยาไนด์สูง มีผลต่อระบบประสาท ทำให้มึนงง ถ้าได้รับในปริมาณมาก ๆ จะไปเกาะกับฮีโมโกลบิน สารที่ร่างกายใช้ในการส่งออกซิเจนไปตามร่างกาย จะมีผลทำให้เกิดอาการขาดออกซิเจน หมดสติ หรือถึงขั้นเสียชีวิต หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว
วิธีกินผักชีให้ปลอดภัย
- หากมีปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะโรคไต ควรต้องปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะในผักชีมีปริมาณโพแทสเซียมพอสมควร หากไม่ระวังอาจเกิดอันตรายได้
- สังเกตอาการแพ้สม่ำเสมอ โดยเฉพาะผู้ที่เคยมีประวัติการแพ้ เพราะมีผู้ป่วยบางราย ที่ไม่รู้ตัวว่าแพ้อาหารจำพวกพืชตระกูลผักชี หากมีผื่นคันขึ้นตามร่างกาย, ตาอักเสบ และแสบเยื่อบุจมูก ควรรีบพบแพทย์ทันที
- หากแม่ท้องมีกลิ่นตัว หรือกลิ่นปากง่าย อาจต้องระวังการทานผักชี ในปริมาณที่มากเกินไป เพราะกลิ่นของผักชีอาจทำให้รู้สึกกังวลได้
แม้ว่าผักชีจะประโยชน์ต่อคนท้อง แต่ไม่มีอาหารชนิดไหนที่ทานได้ตามใจชอบ จะต้องมีข้อควรระวัง และสิ่งที่จะต้องคำนึงอยู่เสมอทั้งในเรื่องปริมาณ และปัญหาสุขภาพที่อาจทำให้ควรเลี่ยงการกินผักชี ซึ่งคุณแม่สามารถทำอาหารทานเองได้ที่บ้าน และควรเพิ่มผักชีในเมนูอาหารเมื่อมีโอกาส และควรคำนึงเสมอว่า การกินเนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้อย่างสมดุลในทุก ๆ วัน สามารถช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีสารอาหารครบถ้วนให้กับทารกในครรภ์ค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องกินยำปลาดุกฟูได้ไหม เมนูนี้เป็นอันตรายหรือเปล่า?
คนท้องกินน้ำซุปตามร้านอาหารได้ไหม กินแล้วเป็นอันตรายหรือไม่!
คนท้องกินบาร์บีคิวได้ไหม ของกินที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์!