คนท้องกินแอปเปิ้ลไซเดอร์ได้ไหม จะอันตรายหรือไม่?

เราจะพาไปไขข้อสงสัยเกี่ยวกับ คนท้องกินแอปเปิ้ลไซเดอร์ได้ไหม กันค่ะ เพราะสำหรับคุณแม่บางคน ช่วงก่อนที่จะตั้งครรภ์อาจจะมีการดื่มแอปเปิ้ลไซ 

 1238 views

เราจะพาไปไขข้อสงสัยเกี่ยวกับ คนท้องกินแอปเปิ้ลไซเดอร์ได้ไหม กันค่ะ เพราะสำหรับคุณแม่บางคน ช่วงก่อนที่จะตั้งครรภ์อาจจะมีการดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์เป็นประจำเพื่อดูแลในเรื่องของรูปร่าง และเมื่อเริ่มตั้งครรภ์ก็อาจมีข้อสงสัยว่าจะสามารถดื่มได้เหมือนเดิมได้อยู่หรือไม่ ถ้าพร้อมแล้ว มาดูคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลย



แอปเปิ้ลไซเดอร์ คืออะไร?

แอปเปิ้ลไซเดอร์ เรียกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกหนึ่งประเภท ที่สามารถนำมาใช้ในการปรุงอาหาร หรือใช้เพื่อช่วยป้องกัน หรือรักษาโรคต่าง ๆ ดังนั้น บทความในวันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักเกี่ยวกับแอปเปิ้ลไซเดอร์กันให้มากยิ่งขึ้น ว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง



คนท้องกินแอปเปิ้ลไซเดอร์ได้ไหม


แอปเปิ้ลไซเดอร์ ก็คือน้ำส้มสายชูที่หมักจากแอปเปิ้ล ซึ่งยังคงเอนไซม์ และแร่ธาตุจากธรรมชาติไว้อย่างครบถ้วน และมีคุณสมบัติความเป็นกรดสูงประมาณ 5% (Acetic Acid)  ซึ่งแอปเปิ้ลไซเดอร์นั้นจะมีรสชาติที่เปรี้ยว และมีกลิ่นเฉพาะตัว สีจะคล้าย ๆ น้ำชา



นอกจากนี้ แอปเปิ้ลไซเดอร์ยังอุดมไปด้วยประโยชน์มากมาย ที่อาจช่วยป้องกันหรือรักษาโรคต่าง ๆ เช่น ช่วยลดความอ้วน,  ช่วยลดความดันโลหิตและโรคหัวใจ, ช่วยขจัดสารพิษในร่างกาย, ช่วยแก้อาการเจ็บคอ, รักษาโรคเบาหวาน เป็นต้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินน้ำส้มสายชูได้ไหม สิ่งนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายหรือไม่!




คนท้องกินแอปเปิ้ลไซเดอร์ได้ไหม

แอปเปิ้ลไซเดอร์ ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์หลากหลายมาก  ๆ สำหรับคนทั่วไป แต่ถ้าหากถามว่า คนท้องกินแอปเปิ้ลไซเดอร์ได้ไหม คำตอบก็คือ ไม่สามารถกินได้ในปริมาณมากนะคะ คนท้อง หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ไม่ควรรับประทานแอปเปิ้ลไซเดอร์ในปริมาณมาก หรือมีความเข้มข้นสูง เนื่องจากยังไม่มีรายงานยืนยันความปลอดภัย 



ถึงแม้ว่าแอปเปิ้ลไซเดอร์จะ จะสามารถนำมาดื่มเพื่อช่วยในการรักษา และป้องกันโรคบางอย่างได้ แถมยังสามารถนำมาใช้เพื่อเป็นตัวช่วยในด้านความสวยความงามได้อีกด้วย แต่ก็อาจจะยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ที่เพียงพอต่อการยืนยันประสิทธิภาพมากเพียงพอ



ดังนั้น ถ้าหากใครที่นำน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ใช้เพื่อการรักษาก็อาจจะทำเพียงใช้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ อย่างระมัดระวัง หรือถ้าหากเพื่อความปลอดภัยในการใช้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด เพื่อความปลอดภัยค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินน้ำส้มสายชูได้ไหม สิ่งนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายหรือไม่!




ประโยชน์ของแอปเปิ้ลไซเดอร์

1. รักษาโรคเบาหวาน

ในแอปเปิ้ลไซเดอร์นั้นมีกรดอะซิติก ซึ่งจะส่งผลดีต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยได้มีงานวิจัยระบุว่า การรับประทานกรดอะซิติกจากน้ำส้มสายชูหมักในระหว่างมื้ออาหาร ที่ประกอบไปด้วยคาร์โบไฮเดรต หรือแป้ง จะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง และยังมีการทดลองวิจัยกับผู้ป่วยเบาหวานโดยตรง



แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันประสิทธิภาพของแอปเปิ้ลไซเดอร์ต่อการรักษาโรคเบาหวานว่ามีประสิทธิภาพมากเพียงพอ ดังนั้น อาจจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และถ้าหากผู้ป่วยโรคเบาหวานอยากจะลองรับประทานแอปเปิ้ลไซเดอร์ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพ



2. ช่วยลดความอยากอาหาร

แอปเปิ้ลไซเดอร์ สามารถช่วยควบคุมความอยากอาหารได้ เชื่อกันว่า กรดอะซิติกนั้นจะมีฤทธิ์ยับยั้งความอยากอาหาร ทำให้รับประทานอาหารน้อยลง และเวลาดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์จะทำให้รู้สึกอิ่มไวขึ้น จึงอาจส่งผลดีต่อการควบคุมน้ำหนัก แนะนำให้กินน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนชา ผสมน้ำ 1-2 แก้ว ก่อนมื้ออาหาร เพื่อลดปริมาณความอยากอาหารค่ะ


3. ช่วยในการบำรุงผิวหน้า

แอปเปิ้ลไซเดอร์มีส่วนช่วยในการรักษาสภาพผิวหน้าได้ พร้อมปรับสภาพผิวหน้า ให้พร้อมสำหรับการบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไป ซึ่งจะช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า และช่วยทำให้รูขุมขนดูกระชับ โดยสูตรทั่วไป จะใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์ 5 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำเปล่าครึ่งแก้ว จากนั้นก็ใช้สำลีชุบเพื่อเช็ดผิวหน้า ชุบแปะทิ้งไว้ทั่วหน้า ทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นก็ล้างออก



สำหรับคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ควรระมัดระวังในการใช้เป็นพิเศษ  อาจจะต้องเจือจางความเข้มข้นของแอปเปิ้ลไซเดอร์ให้มีความอ่อนลงกว่านี้ ไม่อย่างนั้นอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้



4. ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ

หากใครที่มีอาการเจ็บคอ หรือคันคอ แอปเปิ้ลไซเดอร์สามารถช่วยแก้อาการเหล่านี้ได้ค่ะ โดยนำน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำเปล่า 1 แก้ว แล้วนำมากลั้วคอทุก ๆ 1 ชั่วโมง ก็จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ และอาจช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางชนิด ที่เป็นต้นเหตุของอาการเจ็บคอ



5. ช่วยบำรุงเส้นผม

แอปเปิ้ลไซเดอร์สามารถช่วยบำรุงเส้นผมของคุณให้แข็งแรงได้ และยังป้องกันผมแห้ง ลดผมขาดหลุดร่วง แก้ผมแตกปลาย ลดความมันบนหนังศีรษะ และกำจัดรังแคได้ ด้วยการผสมน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1/3 ถ้วย กับน้ำเปล่า 1 ถ้วย แล้วนำมาชโลมบนศีรษะ จากนั้นก็ล้างออก


คนท้องกินแอปเปิ้ลไซเดอร์ได้ไหม



6. ปรุงอาหารได้

แอปเปิ้ลไซเดอร์สามารถที่นำมาปรุงอาหารได้ด้วยนะคะ เพื่อเพิ่มรสชาติของอาหาร รวมทั้งสามารถนำมาเป็นส่วนผสมในการทำขนม หรือถนอมอาหาร หรือจะใช้แทนน้ำสลัด อีกทั้ง ยังสามารถนำแอปเปิ้ลไซเดอร์มาผสมกับน้ำเปล่า ดื่มเพื่อสุขภาพได้อีกด้วยค่ะ



ข้อควรระวังในการใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์

  • ถ้าหากจะใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์เพื่อบำรุงผิวหนังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ควรเจือจางความเข้มข้นของกรดให้น้อยลง เพื่อป้องกันผิวไหม้ค่ะ
  • การรับประทานแอปเปิ้ลไซเดอร์ในปริมาณที่เหมาะสม ควรรับประทานวันละ 2 ช้อนชา ด้วยการผสมกับน้ำเปล่า หรือน้ำผลไม้ ไม่แนะนำให้ดื่มโดยไม่ผสมอะไรเลย เพราะอาจจะทำลายเนื้อเยื่อปาก และลำคอได้ หรือมีอาการปวดแสบในกระเพาะได้ เพราะภายในน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์นั้นมีฤทธิ์เป็นกรด ดังนั้น จึงควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรมากจนเกินไป
  • สำหรับคนที่รับประทานยาเป็นประจำ หรือมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์ เพราะแอปเปิ้ลไซเดอร์อาจไปทำปฏิกิริยากับยาบางชนิด เช่น ยาไดจอกซิน ยารักษาโรคเบาหวาน ยาโรคหัวใจ ยาขับปัสสาวะ เป็นต้น
  • การรับประทานแอปเปิ้ลไซเดอร์ อาจทำให้ระดับของธาตุโพแทสเซียมต่ำลง และอาจส่งผลเสียต่อความหนาแน่นของมวลกระดูกให้มีความบางลง ดังนั้น จึงไม่ควรรับประทานแอปเปิ้ลไซเดอร์ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน


เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ข้อมูลเกี่ยวกับแอปเปิ้ลไซเดอร์ที่เรานำมาฝากกันวันนี้ เรียกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน เลยนะคะ แต่ก็อาจจะมีข้อควรระมัดระวังในการรับประทานอย่าง เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพร่างกาย

และวันนี้เราก็ได้มาไขข้อสงสัยกันแล้วนะคะว่า คนท้องกินแอปเปิ้ลไซเดอร์ได้ไหม แต่ถ้าคุณแม่คนไหนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการรับประทานแอปเปิ้ล แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนที่จะนำมารับประทานจะดีที่สุดนะคะ เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพร่างกายของตัวคุณแม่ และทารกในครรภ์ค่ะ




บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

คนท้องกินผักกาดดองได้ไหม กินของดองเป็นอันตรายต่อแม่ท้องอย่างไร?

ประโยชน์ของส้มโอมีอะไรบ้าง? คนท้องกินส้มโอได้ไหม

ไขข้อข้องใจ! คนท้องกินเมล่อนได้ไหม ดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่?

ที่มา : 1, 2