วิตามิน สำหรับเด็ก จำเป็นอย่างไร เด็กต้องกินวิตามินเสริมไหม?

วิตามิน สำหรับเด็ก เป็นสิ่งที่ช่วยให้ลูกน้อยเจริญเติบโต และมีพัฒนาการที่ดี คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจมองหาวิตามินเสริมเพื่อช่วยบำรุงลูกน้อย อย่างไรก็ตาม วิตามินสำหรับเด็กนั้น ไม่เพียงจากอาหารเสริมเท่านั้น แต่ยังอยู่ในผัก และผลไม้ที่เรากินเป็นประจำ วันนี้ Mama Story จึงขอพาคุณพ่อคุณแม่มาดูกันว่า การรับประทานวิตามินสำหรับเด็กนั้นจำเป็นอย่างไร และมีอยู่ในอาหารชนิดใดบ้าง ไปดูกันค่ะ

อาหารที่มี วิตามินสำหรับเด็ก

วิตามินแบ่งออกเป็นหลายประเภท และมักจะอยู่ในผัก และผลไม้ที่เราบริโภคกันอยู่ทุกวัน คุณพ่อคุณแม่จึงควรให้ลูกน้อยรับประทานอาหารอย่างหลากหลาย เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินอย่างครบถ้วน และช่วยพัฒนาร่างกายของลูกให้แข็งแรง เรามาดูกันดีกว่าว่าอาหารที่มีวิตามินนั้น มีอะไรบ้าง

ธาตุเหล็ก (Iron)

ธาตุเหล็กช่วยบำรุงเลือด และลดความเสี่ยงของโรคโลหิตจาง นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลีย และเหนื่อยง่ายได้อีกด้วย โดยอาหารที่มีธาตุเหล็กนั้น ได้แก่

• อาหารทะเล
• ตับ
• อัลมอนด์
• ถั่ว
• เนื้อแดง

บทความที่เกี่ยวข้อง : แม่ต้องรู้! ธาตุเหล็กสำหรับคนท้อง ส่งผลดีต่อลูกอย่างไร?

วิตามินเอ (Vitamin A)

วิตามินเอ สามารถช่วยดูแลผิว และสายตาได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยในการเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายอีกด้วย โดยวิตามินเอนั้น มักพบได้จากอาหารเหล่านี้

• นม
• ไข่
• ผัก
• ชีส
  
  

วิตามินบี (Vitamin B)

วิตามินบี สามารถเสริมสร้างพลังงานให้แก่ร่างกาย ทำให้อารมณ์ดี ช่วยส่งเสริมสุขภาพ และบรรเทาอาการระคายเคืองอีกด้วย โดยแหล่งอาหารที่มีวิตามินบี ได้แก่

• เนื้อสัตว์
• นม
• ปลา
• ไข่
• ถั่ว
• ถั่วเหลือง
  
  

วิตามินซี (Vitamin C)

วิตามินซี ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยบำรุงผิวได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันวิตามินซี มาในรูปแบบอาหารเสริมที่สามารถกินได้ง่าย มีทั้งรสชาติเปรี้ยวหวาน ทำให้เด็ก ๆ ชอบกินวิตามินซีเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกน้อยกินอาหารที่มีวิตามินมากกว่าวิตามินที่ปรุงแต่งมากกว่า โดยอาหารที่มีวิตามินซีนั้น มีดังนี้

• ผักคะน้า
• บรอกโคลี
• ส้ม
• ฝรั่ง
  
  

วิตามินดี (Vitamin D)

วิตามินดี ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้กระดูกแข็งแรง และป้องกันโรคกระดูกพรุน นอกจากนี้วิตามินดียังสามารถช่วยป้องกันโรคร้ายอย่าง โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง และโรคหัวใจวายได้ด้วย ซึ่งวิตามินดีนั้น มักพบในอาหาร ดังนี้

• ไข่แดง
• ซีเรียล
• เนื้อปลา
  
  

วิตามินเสริมสำหรับเด็ก ต่างจากผู้ใหญ่อย่างไร

โดยทั่วไปแล้ววิตามินสำหรับเด็ก และผู้ใหญ่มีข้อแตกต่างกันแค่ปริมาณในการรับประทานเพียงเท่านั้น เพราะเด็ก และผู้ใหญ่มีความแตกต่างกันหลาย ๆ อย่าง เช่น ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบเผาผลาญ และระบบน้ำเหลือง เป็นต้น อีกทั้งยังมีความแตกต่างกันในด้านของความต้องการสารอาหาร แร่ธาตุ และวิตามิน เป็นต้น ทำให้การรับประทานวิตามินเสริมของเด็ก และผู้ใหญ่จึงมีความแตกต่างเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม หากลูกสามารถรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และรับประทานอย่างหลากหลาย ก็จะทำให้เด็ก ได้รับสารอาหารครบถ้วน โดยไม่จำเป็นต้องทานวิตามินเสริมเพิ่มเลยค่ะ

วิตามิน ช่วยให้ลูกอยากรับประทานมากขึ้นจริงไหม

การที่ลูกไม่ยอมกินข้าวนั้น สามารถเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากพฤติกรรมของเด็ก และการเลี้ยงดูของพ่อแม่ ทำให้เด็กไม่อยากรับประทานอาหาร นอกจากนี้ หากคุณพ่อคุณแม่ทำอาหารไม่ถูกปากลูก ก็จะส่งผลให้เด็กไม่ยอมกินข้าวได้ด้วย ซึ่งการที่ลูกไม่ยอมรับประทานอาหาร จะส่งผลให้เกิดการขาดวิตามิน และแร่ธาตุตามมาได้ จนในที่สุดเด็กก็จะมีอาหารเบื่ออาหาร ลิ้นรับรสชาติได้ไม่ดี จนกลายเป็นว่ารับประทานอาหารแล้วไม่อร่อย อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยให้ลูกหายจากอาการเบื่ออาหารได้ โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารของลูก ให้รับประทานอาหารหลากหลายมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายเป็นประจำ ก็จะช่วยให้ลูกสามารถรับประทานอาหารได้โดยไม่จำเป็นต้องกินอาหารเสริมใด ๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง : 7 วิธีแก้อาการหลังลูก “เบื่ออาหาร” ให้กลับมามีความสุขกับมื้ออาหารอีกครั้ง

วิตามินช่วยบรรเทาโรคได้จริงไหม

การให้เด็กรับประทานวิตามินนั้น สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้บางครั้ง เช่น เด็กที่เป็นลำไส้อักเสบ ถ่ายเหลว ก็สามารถรับประทานธาตุสังกะสี เพื่อช่วยบรรเทาความรุนแรงของอาหารได้ อย่างไรก็ตาม วิตามินบางชนิด อาจสามารถทำร้ายลูกน้อยได้ โดยวิตามินที่คุณพ่อคุณแม่ควรระมัดระวังนั้น ได้แก่

• วิตามินเอ : การที่ลูกรับประทานวิตามินเอมากเกินไป อาจทำให้ลูกมีอาการปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ความดันในกะโหลกศีรษะสูง และมีอาการชัก เป็นต้น
• เบต้าแคโรทีน : หากเด็ก ๆ รับประทานเบต้าแคโรทีนมากเกินไป ก็จะส่งผลผิวหนังมีสีเหลือง แต่ไม่ต้องกังวลใจไปนะคะ คุณพ่อคุณแม่สามารถให้ลูกงดรับประทานอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนเพื่อช่วยให้อาการผิวหนังเหลืองของลูกหายไปได้
  
  

ข้อควรระวังในการให้ลูกรับประทานวิตามินเสริม

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาวิตามินเสริมสำหรับเด็ก อาจมีข้อควรระวังบางอย่างที่ต้องระวัง โดยอาจมีข้อจำกัด ดังต่อไปนี้

• ก่อนให้ลูกรับประทานอาหารเสริม คุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทุกครั้ง
• เก็บอาหารเสริมให้พ้นมือเด็ก เพราะลูกอาจคิดว่าเป็นขนม หรือลูกอมจนนำไปรับประทานได้
• อย่าให้ลูกรับประทานวิตามินรวม เพราะอาจทำให้ร่างกายของเด็ก ได้รับวิตามินเกินกว่าจำเป็น
• เด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี ไม่ควรรับประทานอาหารเสริมใด ๆ นอกจากแพทย์จะแนะนำให้รับประทาน
  
  

หากคุณพ่อคุณแม่จะให้ลูกรับประทานวิตามิน ก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานวิตามินเสริมนะคะ เพราะแหล่งวิตามินชั้นดีนั้น มาจากพืชผัก และผลไม้ที่เรารับประทานกันอยู่ทุกวัน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรหลีกเลี่ยงให้ลูกรับประทานวิตามินเสริมใด ๆ และควรหันมาให้ลูกรับประทานผัก และผลไม้บ่อย ๆ ก็จะช่วยเสริมวิตามินให้แก่ร่างกายเด็กได้ค่ะ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

แคลเซียมแม่ท้อง สารอาหารที่ร่างกายคุณแม่ผลิตเองไม่ได้

อาหารเสริมเพิ่มน้ำนม จำเป็นไหม แม่ท้องกินอะไรแล้วช่วยบำรุงน้ำนม?

โพแทสเซียมกับแม่ท้อง มากเกิน น้อยเกิน ไม่ส่งผลดี ทานอย่างไรให้พอเหมาะ?

ที่มา : 1, 2, 3