Posted on 12 Oct 2022
1229 views หากผู้ปกครองกำลังกังวลเกี่ยวกับความสูงของลูก อยากจะหาวิธีเพิ่มความสูงให้ลูก ควรเริ่มทำให้เร็วที่สุด ยิ่งเริ่มเร็วเท่าไหร่ ยิ่งเห็นผลได้ชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น ดีกว่าไปทำตอนลูกเป็นวัยรุ่น อาจช้าเกินไป ส่วนวิธีนั้นอ่านได้จากบทความนี้เลย
4 เหตุผลทำไมลูกจึงไม่สูง
สาเหตุที่ทำให้ลูกน้อยมีแนวโน้มที่จะไม่สูง เกิดขึ้นได้จากทั้งปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ และเกิดจากการเลี้ยงดูส่วนหนึ่งด้วย ได้แก่
- พันธุกรรม : เรื่องพันธุกรรมเป็นเรื่องพื้นฐานในการสืบทอดทั้งลักษณะนิสัย และด้านร่างกายจากพ่อแม่มาสู่ลูกอยู่แล้ว หากพ่อและแม่สูงทั้งคู่ แน่นอนว่าลูกจะมีโอกาสสูงอยู่มาก หากคนใดคนหนึ่งสูงอีกคนเตี้ย ลูกก็อาจจะสูงในระดับปานกลางนั่นเอง ซึ่งลักษณะความสูงนั้นลูกจะได้รับมาจากทางแม่มากกว่าพ่อ
- ขาดการออกกำลังกาย : การออกกำลังกายเป็นประจำ มีส่วนช่วยได้มาก หากเด็กขาดการออกกำลังกาย นอกจากจะลดโอกาสการเติบโตของกระดูก และกล้ามเนื้อแล้ว ยังทำให้มีความเสี่ยงต่อโรคร้ายต่าง ๆ ตามมาด้วย
- ทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ : เป็นปกติที่โดยธรรมชาติเด็ก ๆ มักจะอยากเลือกทานอาหารที่มีรสชาติอร่อยมากกว่าทานผัก และผลไม้ แต่การปล่อยให้ลูกทานอาหารเหล่านั้น เป็นผลเสียมากกว่าที่คิด เพราะอาหารที่ไม่มีประโยชน์จะขับสารอาหารที่ดีในร่างกายออกมา และยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนอีกด้วย
- ป่วยบ่อยเกินไป : หากลูกมีอาการป่วยไม่สบายบ่อยเกินไป สามารถส่งผลต่อส่วนสูงในทางอ้อมได้ เนื่องจากจะต้องกินยาเพื่อรักษาอาการป่วย โดยยาบางตัวอาจส่งผลต่อระดับฮอร์โมนของร่างกายลูกได้นั่นเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกน้อย “แพ้นมวัว” ทำไงดี ให้ลูกกินนมอะไรแทนได้บ้าง?
วิดีโอจาก : Kids Family เลี้ยงลูกให้ฉลาด
แนะนำ 6 วิธีเพิ่มความสูงให้ลูก
ผู้ปกครองที่กำลังมองหาวิธีที่จะช่วยให้ลูกสูงขึ้น สามารถทำได้ไม่ยาก ด้วยการให้ความสำคัญกับชีวิตประจำวันของลูก กิจกรรมต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่สามารถปรับให้ส่งเสริมความสูงได้ ดังนี้
1. ให้ความสำคัญกับมื้ออาหาร
การส่งเสริมให้ลูกตัวสูงนั้น ส่วนสำคัญอย่างหนึ่งมาจากการทานอาหารในแต่ละมื้อ ซึ่งสำคัญมาก หากผู้ปกครองอยากให้ลูกสูง ควรวางแผนตั้งแต่ตั้งครรภ์แล้ว ด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์เน้นอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพราะทารกจะได้รับสารอาหารจากรก ซึ่งถูกส่งต่อมาโดยตรงผ่านแม่นั่นเอง เมื่อทารกคลอดออกมา ต้องให้นมแม่ ระหว่างนั้นคุณแม่ก็ควรทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะลูกจะได้รับผ่านนม หากกินตามใจปาก ประโยชน์ของนมแม่ก็อาจลดทอนลงไปได้ด้วย
แน่นอนว่าเมื่อลูกโตขึ้น และสามารถทานอาหารทั่ว ๆ ไปได้แล้ว ควรเน้นอาหารที่มีวิตามินหลากหลายชนิด หรือแร่ธาตุที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย เช่น แคลเซียม และฟลูออไรด์ เป็นต้น สารอาหารเหล่านี้จะช่วยให้กระดูกแข็งแรง และเติบโตขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ หรือให้จำว่าทานไข่, เนื้อสัตว์, เนื้อปลา, ผักใบเขียว และผลไม้ต่าง ๆ อย่างสมดุล ไม่มาก และไม่น้อยจนเกินไป
2. ดื่มนมให้มาก ๆ
ถึงแม้ลูกจะหย่านมไปแล้ว แต่สารอาหารหลายอย่างอาจหาได้จากนมกล่องทั่วไป หากเลือกให้ถูกต้องเหมาะสม สารอาหารที่สำคัญในนมมีส่วนช่วยในการเติบโตของกระดูก และกล้ามเนื้อของเด็กเล็กมาก เช่น โพแทสเซียม (Potassium), แคลเซียม (Calcium) และฟอสฟอรัส (Phosphorus) เป็นต้น ถึงแม้สารอาหารเหล่านี้อาจหาได้จากการทานอาหารอื่น ๆ แต่สำหรับการดื่มนมกล่อง หรือนมชงนั้น ถือเป็นทางลัดที่ปลอดภัย อีกทั้งการดื่มนมยังได้สารอาหารที่จะเป็นต่อการเติบโตตามวัยที่ครบถ้วน แต่สำหรับเด็กที่ดื่มนมกล่อง อาจต้องพึ่งความสม่ำเสมอในการดื่มด้วย
3. ออกกำลังกายตลอด
ใคร ๆ ก็รู้ว่าการออกกำลังกายมีประโยชน์มากแค่ไหน การออกกำลังกายในช่วงที่อยู่ในวัยทำงาน จะทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น แต่สำหรับเด็กเล็กจะได้มากกว่านั้น การออกกำลังกายโดยปกติจะออกครั้งละอย่างต่ำ 30 นาที และควรออกอย่างน้อย 3 ครั้ง / สัปดาห์ การออกกำลังกายให้ได้ผลต่อความสูงผู้ปกครองจำเป็นจะต้องเลือกกีฬาให้ถูกต้องด้วย เช่น บาสเกตบอล, ว่ายน้ำ, กระโดดเชือก หรือโหนบาร์ เป็นต้น ซึ่งกีฬาบาสเกตบอลอาจจะง่ายกว่า เนื่องจากผู้ปกครองสามารถเล่นกับลูกได้ ได้ทั้งร่างกายที่แข็งแรง และได้เพิ่มความสัมพันธ์ในครอบครัวอีกด้วย
4. นอนให้พอ พักให้เยอะ
การนอนหลับ หรือการทำกิจกรรมเพื่อพักผ่อนร่างกายของเด็กสำคัญมาก ผู้ปกครองอาจมองในมุมมองของผู้ใหญ่ว่าการที่ลูกออกไปโรงเรียน ก็แค่เรียนจะเหนื่อยตรงไหน ไม่เห็นเหมือนคนทำงาน แต่การเรียน และการเล่นเด็ก ๆ จะต้องใช้พลังงานเช่นกัน และเด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่ที่จะมีพลังงาน และความแข็งแรงของร่างกายจะทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้มาก การให้ร่างกายของลูกได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ เป็นการเสริมสร้างร่างกายที่สึกหรอได้ดีในช่วงที่นอนหลับ และเป็นปรับฮอร์โมนต่าง ๆ ของร่างกายด้วย โดยการนอนหลับตามมาตรฐานนั้น ควรนอนให้ได้อย่างต่ำ 9 – 11 ชั่วโมง
5. ระวังท่าทางของลูก
การทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ท่วงท่าในการยืน การเดิน การวิ่ง หรือการนอน สามารถส่งผลต่อส่วนสูงของลูกได้ด้วย หากลูกทำตัวงอบ่อย นั่งหลังค่อม นอนตัวงอ หรือเดินหลังค่อม จะส่งผลต่อกระดูกสันหลังได้ หากกระดูกสันหลังคดงอ จะยิ่งทำให้ลูกดูเตี้ย และอาจต้องคอยรักษาด้วยในภายหลัง เพราะส่งผลต่อบุคลิกภาพ หรืออาจทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ลำบากมากขึ้น
6. เลี่ยงขนม และน้ำอัดลม
อาหารจำพวกขนมขบเคี้ยว หรือน้ำอัดลม อุดมไปด้วยสารที่ไม่มีประโยชน์ โดยเฉพาะโซเดียมที่มีผลทำให้ร่างกายปัสสาวะบ่อย เป็นการขับแคลเซียมออกจากร่างกาย เมื่อร่างกายขาดแคลเซียม ก็จะทำให้ร่างกายพัฒนาช้าลง ไม่ได้มีส่วนสูงเพิ่มขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงโรคร้ายต่าง ๆ เช่น โรคกระดูกงอ หรือกระดูกสึกกร่อนเร็ว เป็นต้น
ทั้งหมดนี้คือวิธีเพิ่มความสูงให้ลูกที่สามารถทำได้ไม่ยาก ผู้ปกครองไม่ควรเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ควรทำทั้งหมดนี้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดด้วยนะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
นมจากพืช นมทางเลือกเพื่อสุขภาพของคนไม่ดื่มนมวัว
แพ้แล็กโทส อาการเป็นอย่างไร ลูกแพ้แล็กโทสในนมทำไงดี ?
