ให้ลูกเรียนไวโอลินดีอย่างไร ควรรู้อะไรก่อนเริ่มเรียน ?

อยากให้ลูกเรียนดนตรีสายคลาสสิก ห้ามพลาดไวโอลิน ให้ลูกเรียนไวโอลินดีอย่างไร ต้องคำนึงถึงอะไรก่อนบ้างก่อนที่จะให้ลูกไปฝึก รวมถึงวิธีการดูแลไวโอลินเบื้องต้น ทุกคำตอบมีในบทความนี้

ทำความรู้จักไวโอลินกันก่อน

เครื่องดนตรีอย่าง “ไวโอลิน (Violin)” เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี ด้วยเสียงที่ไพเราะ และสามารถเล่นเดี่ยวได้ ทำให้ได้รับความนิยมจนแพร่หลายไปยังประเทศอื่น ๆ

ปัจจุบันไวโอลินเป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่นิยมให้ลูกหลานได้เรียนกัน อีกทั้งยังมีการจัดแสดงให้เห็นโดยทั่วไปอยู่บ่อยครั้งอีกด้วย โดยทั่วไปแล้วไวโอลินถือเป็นเครื่องดนตรีที่มีเรตราคาหลากหลายตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นตามความสนใจ และงบของแต่ละคน

บทความที่เกี่ยวข้อง : 4 ประโยชน์ของอูคูเลเล่ สอนลูกเล่นดีแน่นอน ปลอดภัยด้วย

วิดีโอจาก : Music Modern

ก่อนให้ลูกเริ่มเรียนไวโอลินควรต้องรู้อะไรก่อนบ้าง ?

การเรียนไวโอลินไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องใช้ความพยายาม รวมถึงการฝึกฝนมากพอสมควร ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจพาลูกไปเรียนเครื่องดนตรีชนิดนี้ ผู้ปกครองอาจมีข้อสงสัยหลายข้อ โดยเราจะยกสิ่งที่ผู้ปกครองอาจต้องการรู้ก่อน ดังนี้

• เริ่มเรียนได้ตอนอายุเท่าไหร่ : โดยปกติแล้วทักษะทางด้านเครื่องดนตรีจะเหมาะกับเด็กอายุ  6 ปีขึ้นไปเท่านั้น เนื่องจากอยู่ในวัยที่สามารถพูดคุยสื่อสารได้ชัดเจนมากขึ้น และมีความสามารถในการเรียนรู้ที่เหมาะสมแล้ว เด็กบางคนอาจรอให้พร้อมมากกว่านี้ก่อนก็ได้
• ถามลูกก่อนเสมอ : การนำลูกไปฝึกทักษะใหม่ ๆ ไม่ใช่การพาลูกไปลงเรียน โดยที่ลูกก็ไม่รู้ว่าคืออะไร อย่างน้อยลูกต้องรู้จักว่าไวโอลินคืออะไร มีความสนใจมากน้อยแค่ไหนด้วย
• เรียนกับใคร ที่ไหน : การเลือกเรียนไวโอลินสำหรับเด็กนั้น สิ่งที่ดีที่สุด คือ การเลือกคนที่สามารถสอนเด็ก ๆ ได้ดี มีประสบการณ์ในการสอนเด็กมาก่อน จะเหมาะสมที่สุด อย่างไรก็ตามต้องดูเรื่องของระยะทางด้วย หากไกลเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดีของลูกเอง ควรดูสถานที่เรียนไม่ไกลบ้านประกอบด้วย เมื่อลูกโตขึ้นมากกว่านี้ จึงค่อยเลือกที่ไกลออกไปที่มีชื่อเสียงก็ได้
• ใช้เวลาเรียนนานไหมกว่าลูกจะเก่ง : ระยะเวลาในการเรียนไม่สามารถกำหนดได้ว่าลูกจะเก่งตอนไหน เพราะสิ่งสำคัญสำหรับการฝึกเครื่องดนตรีทุกประเภท คือ การพยายามที่จะฝึกซ้อมมากแค่ไหน ยิ่งฝึกบ่อยก็ยิ่งคุ้นชิน จะช่วยลดระยะเวลาให้มีความคล่องแคล่วมากขึ้นได้นั่นเอง
• เล่นไวโอลินคอเอียงไหม : การเล่นไวโอลินผู้ปกครองอาจมองว่าต้องเอียงคอแทบจะตลอด กลัวว่าลูกจะมีปัญหาเรื่องรูปคอได้ เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วงไป เพราะเรื่องรูปคอนั้นเป็นปกติได้ ตราบใดที่ลูกปฏิบัติตามคำแนะนำท่วงท่าในการเล่นจากครูผู้สอนเป็นอย่างดี
• ต้องมีไวโอลินที่บ้าน : เพราะจำเป็นที่จะต้องให้เวลากับการฝึกฝนมากเป็นพิเศษที่บ้านด้วย การมีไวโอลินอยู่ที่บ้านจึงเป็นสิ่งที่ห้ามขาด

ให้ลูกเรียนไวโอลินดีอย่างไร ?

หากผู้ปกครองตัดสินใจได้แล้วว่าจะให้ลูกเรียนไวโอลินจริง ๆ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะการฝึกเครื่องดนตรีชนิดนี้ส่งผลดีต่อลูกรักหลายประการ ตัวอย่างเช่น

1. ฝึกการใช้ทักษะของร่างกายร่วมกัน

การเล่นไวโอลินต้องใช้ร่างกายหลายส่วนทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบทั้งแขน นิ้ว หัวไหล่ ดวงตา และคอ เป็นต้น เพื่อให้ได้เสียงที่ไพเราะ ไม่เพี้ยน ไม่ผิดจังหวะนั่นเอง การเล่นไวโอลิน สำหรับเด็กแล้ว ถือเป็นการฝึกร่างกาย และการรับรู้ของประสาทสัมผัสต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิตของลูกน้อยอย่างเลี่ยงไม่ได้ยิ่งฝึกบ่อยอวัยวะที่เกี่ยวข้อง ก็จะสามารถทำงานร่วมกับระบบประสาท และสมองได้ดีตามไปด้วย

2. ได้เข้าสังคม ได้สื่อสารกับผู้อื่น

การเรียนไวโอลินด้วยตนเองเป็นเรื่องที่ยากมาก การไปเรียนที่โรงเรียนสอนนั้นเป็นสิ่งที่เหมาะสม การได้ไปพบกับคนอื่น ๆ โดยเฉพาะเด็กในวัยใกล้เคียงกัน จะทำให้ลูกได้ฝึกพัฒนาทักษะการเข้าสังคม ซึ่งถือว่าสำคัญมากในอนาคต การฝึกไวโอลินยังต้องรับฟังความคิดเห็นของครูผู้สอนด้วย ทำให้มีทักษะในการพูดคุย การรับฟังสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องปรับปรุง และนำมาใช้พัฒนาความสามารถในการเล่นไวโอลินของตนเองให้ดียิ่งขึ้น

3. สร้างตัวตน เสริมความมั่นใจ

แม้จะมีการสอนเล่นไวโอลินให้เห็นเป็นปกติ แต่เมื่อเราเห็นเด็กที่เล่นไวโอลินได้ดี เล่นได้ไพเราะ เราก็มักจะรู้สึกชื่นชมมากเป็นพิเศษ เพราะภาพจำของสังคมนั้นมองว่าการเล่นไวโอลินเป็น ถือเป็นความสามารถที่น่าสนใจ คล้ายกับการที่ลูกเล่นเปียโนเป็นนั่นเอง นอกจากนี้การเล่นเครื่องดนตรีที่สามารถเล่นเดี่ยวได้แบบนี้ จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในตนเองได้ทุกครั้งที่สามารถพัฒนาทักษะของตัวเองให้สูงขึ้น หรือเมื่อสามารถเล่นเพลงได้หลายเพลง เป็นต้น

4. ฝึกให้เป็นคนขยัน ไม่ละความพยายาม

ไวโอลินเป็นเครื่องดนตรีที่จะต้องจ่ายเวลาให้กับการฝึกฝนมาก ๆ เพราะยิ่งฝึกมากก็จะยิ่งเก่งเร็ว และคุ้นชินกับการเล่นได้มากขึ้น หากไปเรียนอย่างเดียว แล้วไม่ค่อยฝึก พัฒนาการก็จะช้า การไปเรียนก็อาจทำให้เสียเงินไปไม่ถึงคุ้มได้ การต้องวางตารางการฝึกไวโอลินของลูกนี่แหละ ที่จะช่วยพัฒนาให้ลูกเป็นคนที่มีความขยัน มีความพยายาม และมีระเบียบวินัยตั้งแต่ยังเด็ก ยิ่งลูกชอบอยากเล่นเป็นเร็ว ๆ สิ่งเหล่านี้ก็จะยิ่งส่งผลมากขึ้นด้วย

อย่าลืมที่จะดูแลไวโอลินให้ดี

ไวโอลินเป็นเครื่องดนตรีที่มีหลายราคาตั้งแต่หลัก 5,000 – 20,000 บาทโดยเฉลี่ย อาจน้อยกว่าหรือมากกว่านี้ก็ได้ ซึ่งถือว่าค่อนข้างมีราคาพอสมควร และเราแนะนำให้มีไวโอลินไว้ในบ้าน เพื่อให้ลูกใช้สำหรับการฝึกซ้อมด้วย โดยมีวิธีดูแลดังนี้

• หากใช้งานบ่อยควรให้ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เป็นคนตรวจสอบความสมบูรณ์เป็นระยะ ๆ
• ต้องทำความสะอาดด้วยผ้าที่มีความนุ่มเสมอ ไม่ควรใช้ผ้าที่เนื้อไม่ดี เพราะอาจทำให้เกิดรอย
• ไม่ควรวางไว้หลังเล่นเสร็จ ควรนำมาทำความสะอาด แล้วเก็บใส่กล่องเป็นอย่างดี
• หากต้องเปลี่ยนสาย ไม่ควรเปลี่ยนสายพร้อมกัน เพราะจะทำให้เสียสมดุล ส่งผลต่อเสียงได้
• หากเกิดการชำรุด แล้วไม่มีประสบการณ์ในการซ่อมแซมไวโอลิน ควรนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญแก้ไขให้

ให้ลูกเรียนไวโอลินดีอย่างไร ผู้ปกครองคงจะรู้แล้ว รวมไปถึงข้อมูลอื่น ๆ อย่างไรก็ตามยังมีเครื่องดนตรีอีกมากที่เหมาะสมกับเด็ก แต่ก่อนจะให้ลูกเรียนต้องถามความสนใจลูกก่อนเสมอ รวมไปถึงความเหมาะสมเรื่องอื่น ๆ ด้วย

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

4 ประโยชน์ของบ้านต้นไม้ ก่อนสร้างให้ลูกต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

เกมเศรษฐี (Monopoly) ทางเลือกสำหรับเด็ก เรียนรู้การจัดการเรื่องเงิน

5 เกมมือถือสำหรับเด็ก ได้ความรู้ และความคิดสร้างสรรค์

ที่มา : 1, 2