สำหรับคุณแม่มือใหม่ก็อาจจะยังไม่ทราบว่า เราควรมีวิธีการสังเกตยังไงบ้างว่า หากเรามีอาการแบบนี้อยู่ นั่นอาจจะกำลังบ่งบอกว่าเรากำลังตั้งท้อง หรือกำลังมีเจ้าตัวเล็กอยู่แน่นอน สำหรับคุณแม่คนไหนที่กำลังสงสัยอยู่ว่าเรากำลังตั้งท้องอยู่หรือเปล่า เอาเป็นว่าเรามาดู วิธีสังเกตคนท้องระยะแรก ไปพร้อมกันเลยค่ะ
อาการคนท้องแรก ๆ เป็นอย่างไรบ้าง?
ใครที่ค่อนข้างสับสนและลังเลว่าอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนี้ เรียกว่าเรากำลังต้องท้องอยู่จริง ๆ ใช่ไหม เอาเป็นว่าเรามาตรวจเช็กอาการแต่ละข้อกันเลยดีกว่า
บทความที่เกี่ยวข้อง : แม่ต้องรู้! อาการแพ้ท้องลูกชาย มีลักษณะอย่างไร? มาดูกัน
1. รู้สึกเหนื่อย หรืออ่อนล้า
การที่เรารู้สึกเหนื่อยขึ้นมา หรืออยู่ ๆ ก็รู้สึกเหนื่อยมากกว่าปกติสิ่งนี้ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งอาการสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งท้องในช่วงแรก ๆ โดยสิ่งเหล่านี้จะเกิดจากระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนมีระดับที่เพิ่มสูงขึ้น จนส่งผลทำให้คุณแม่รู้สึกอ่อนเพลียได้ง่ายกว่าปกตินั่นเอง
2. ปวดบริเวณท้องน้อย
อีกหนึ่งอาการคนท้องที่คุณแม่จะสัมผัสได้ในช่วงตั้งครรภ์แรก ๆ นั้นคือ คุณแม่จะรู้สึกปวดท้องน้อย หรือหน่วงบริเวณท้องน้อย ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากมดลูกของเราเริ่มมีการขยายตัว พร้อมที่จะรองรับการเจริญเติบโตของตัวอ่อนได้อย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นหากคุณแม่คนไหนที่กำลังรู้สึกหน่วงท้อง หรือมีอาการแบบนี้อยู่แล้วล่ะก็ อาจจะต้องรีบทำการพบแพทย์เพื่อทำการฝากครรภ์นะคะ
3. อาการคลื่นไส้ หรืออาการแพ้ท้อง
หนึ่งในอาการที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าคุณแม่กำลังตั้งท้องอยู่ในตอนนี้ ซึ่งต้องบอกว่าอาการตั้งท้องในช่วงแรก ๆ นั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีอาการแพ้ท้องที่ไม่ได้รุนแรงสักเท่าไหร่ แถมยังเป็นช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายของคุณแม่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอีกด้วย
4. มีอาการท้องผูก
เชื่อไหมคะว่าอาการท้องผูกก็เป็นหนึ่งในอาการแพ้ในช่วงระยะเริ่มแรกอยู่เหมือนกัน อาจเป็นเพราะฮอร์โมนในร่างกายของคุณแม่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังเป็นช่วงที่ระดับฮอร์โมนในร่างกายของคุณแม่เพิ่มสูงขึ้น สิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลทำให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานได้ช้าลง จนส่งผลทำให้คุณแม่มีอาการท้องผูก หรือท้องอืดขึ้นมาได้เช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : ท้องผูก ทำอย่างไรดี? พร้อมวิธีการรับมือสำหรับคนท้อง
5. มีความไวต่อกลิ่น
อาการต่อมาสำหรับคุณแม่ท้องในช่วงแรก ๆ ก็จะมีความรู้สึกไวต่อกลิ่นมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งกลิ่นต่าง ๆ ที่เราพูดถึงอยู่ในตอนนี้ไม่ใช่เพียงแค่กลิ่นอาหารเท่านั้น แต่จะรวมถึงกลิ่นต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเราไปด้วย ดังนั้นหากคุณแม่ที่กำลังรู้สึกว่าเรามีความรู้สึกไวต่อกลิ่นแบบแปลก ๆ ทั้ง ๆ ที่กลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่เราใช้อยู่เป็นประจำ สิ่งนี้ก็อาจจะเป็นหนึ่งในอาการแพ้ท้องของคุณแม่ในช่วงระยะเริ่มแรกก็เป็นได้
6. รู้สึกคัดบริเวณเต้านม
หากเมื่อไหร่ที่คุณแม่รู้สึกคัดบริเวณเต้านม หรือเจ็บบริเวณเต้านมขึ้นมา สิ่งนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในอาการที่กำลังบ่งบอกว่าคุณแม่กำลังตั้งท้องด้วยเช่นกัน หลังจากนั้นก็จะเริ่มมีอาการประจำเดือนขาด หรือมีอาการอื่น ๆ ตามมาเรื่อย ๆ เลยล่ะค่ะ
7. ปัสสาวะบ่อยมากขึ้น
ในช่วงแรก ๆ ที่คุณแม่กำลังตั้งท้องเจ้าตัวเล็กอยู่นั้น อาการที่จะต้องพบเจอต่อมาคือคุณแม่จะรู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยมากขึ้น ด้วยฮอร์โมนในร่างกายของเราเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง สิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลทำให้ระบบไหลเวียนเลือด และของเหลวในร่างกายทำงานมากขึ้นกว่าปกติ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือมดลูกของเราก็เริ่มมีการขยายตัวมากขึ้น และไปกดทับบริเวณกระเพาะปัสสาวะจนทำให้เรารู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยนั่นเองค่ะ
วิธีดูแลตัวเองในช่วงต้องท้องช่วงแรก ๆ ทำไงดี?
คุณแม่คนไหนที่อยากรู้ว่าเราควรดูแลตัวเองในช่วงตั้งท้องยังไงดี เพื่อที่เราจะได้ดูแลตัวเองได้อย่างถูกวิธี และลูกในท้องของเราก็จะได้มีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ตามไปด้วย เอาเป็นว่าเรามาดูวิธีการดูแลตัวเองในช่วงตั้งท้องไปพร้อมกันเลยนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ท้อง 1 เดือน อาการตั้งครรภ์ระยะแรก ที่คุณแม่ต้องรับมือ
1. รับประทานอาหารที่เหมาะสม
สิ่งสำคัญที่คุณแม่ควรต้องเอาใจใส่มาก ๆ เลยคือเรื่องของอาหารการกิน โดยเฉพาะในช่วงที่เรากำลังต้องท้อง คุณแม่อาจจะต้องระมัดระวังเรื่องอาหารการกินให้มากขึ้น พยายามเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย และเป็นอาหารที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสารอาหารสำคัญมากมาย อาทิเช่น อาหารที่ประกอบไปด้วยแคลเซียม โฟเลต ไอโอดีน หรือธาตุเหล็ก เป็นต้น
2. พักผ่อนให้เพียงพอ
ในเรื่องของการพักผ่อนก็เป็นอะไรที่สำคัญสำหรับคุณแม่มาก ๆ ยิ่งในช่วงตั้งท้องแรก ๆ คุณแม่อาจจะรู้สึกอ่อนล้า หรืออ่อนเพลียขึ้นมา เพราะฉะนั้นหากคุณแม่นอนพักผ่อนได้อย่างเต็มอิ่ม สิ่งนี้ก็จะช่วยทำให้คุณแม่รู้สึกดีขึ้นมา อีกทั้งดูมีชีวิตชีวาขึ้นมามาก ๆ อีกด้วย
3. ออกกำลังกาย
เมื่อพูดถึงเรื่องการออกกำลังกาย สำหรับคุณแม่บางคนก็อาจจะไม่ค่อยกล้าออกกำลังกายในช่วงตั้งท้องสักเท่าไหร่ แต่อยากจะบอกว่า ถึงแม้เรากำลังตั้งท้องเจ้าตัวเล็กอยู่ เราก็สามารถออกกำลังกายได้เหมือนกัน โดยเราอาจจะต้องเลือกออกกำลังกายในท่าที่เหมาะสม และไม่ส่งผลกระทบต่อลูกในท้อง โดยอาจจะออกกำลังกายด้วยการเดิน หรือเล่นโยคะ เป็นต้น
4. งดกิจกรรมที่ส่งผลกระทบต่อลูกน้อย
สิ่งที่คุณแม่อาจจะต้องระวังต่อมาคือ หากเรากำลังตั้งท้อง บางครั้งเราอาจจะต้องงดกิจกรรมบางอย่างไปก่อน เพื่อที่ลูกในท้องของเราจะได้ปลอดภัยและไม่ได้มีผลกระทบอื่น ๆ ตามมา ในทางกลับกันหากเรารู้ว่าตัวเองกำลังตั้งท้อง แต่เราก็ยังคงทำกิจกรรมสนุก ๆ เหมือนที่เคยทำอยู่เป็นประจำ สิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อลูกน้อยของเราได้เหมือนกัน
5. รับประทานวิตามินเสริม
นอกเหนือจากการรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์แล้วนั้น คุณแม่อาจจะต้องรับประทานวิตามินซีเสริมเข้าไปด้วย เพื่อที่ลูกในท้องของเราจะได้เป็นเด็กที่มีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง หรือทางที่ดีหากเราอยากมีความมั่นใจในการรับประทานอาหารเสริมกันมากขึ้น คุณแม่ก็อาจจะต้องทำการปรึกษาหรือขอคำแนะนำคุณหมอก่อนที่จะรับประทานอะไรเข้าไป เพื่อที่ลูกในท้องของเราจะได้รับสารอาหารที่ดีและมีประโยชน์ได้อย่างเต็มที่
6. ฝากครรภ์
สิ่งที่คุณแม่ไม่ควรมองข้ามต่อมาเลยคือ เรื่องของการฝากครรภ์ เมื่อไหร่ที่คุณแม่รู้ว่าตัวเองกำลังตั้งท้องอยู่ในตอนนี้ แน่นอนว่าคุณแม่อาจจะต้องรีบทำการฝากครรภ์ เพื่อคุณหมอจะได้ตรวจเช็กร่างกายทั้งของคุณแม่และลูกในท้องว่าปกติ และปลอดภัยดีหรือเปล่า แต่หากเมื่อไหร่ที่คุณแม่ไม่ได้รีบทำการฝากครรภ์และปล่อยปละละเลยเรื่องเหล่านี้ไป สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้ลูกในท้องของเราได้รับการดูแลได้ไม่เต็มที่
วิธีการสังเกตในช่วงตั้งท้องระยะแรก ๆ ที่เราได้นำมาฝากคุณแม่ในวันนี้ หากใครที่เริ่มมีอาการเข้าข่าย หรือกำลังรู้สึกว่าตัวเองมีอาการแบบนี้อยู่แล้วล่ะก็ ไม่ควรนิ่งนอนใจไปนะคะ เราอาจจะต้องทำการพบแพทย์เพื่อที่จะได้รู้ว่าเราท้องเจ้าตัวเล็กจริง ๆ หรือเปล่า พร้อมกับรีบทำการฝากครรภ์ เพื่อที่เราและลูกในท้องจะได้อยู่ในความดูแลของคุณหมอนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เรื่องน่ารู้! คนท้องห้ามกินอะไร ? อาหารประเภทไหนที่ควรหลีกเลี่ยงขณะตั้งครรภ์
กางเกงเอวสูง คนท้องใส่ได้ไหม? กางเกงแบบไหนเหมาะสำหรับแม่ท้อง
ชุดคนท้องออกงาน เลือกอย่างไรดี? เพิ่มความมั่นใจให้กับคุณแม่!