รู้หรือไม่! คนท้องกินแมงกะพรุนได้ไหม ภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ!

เมื่อพูดถึงอาหารทะเล เชื่อว่าใครหลายคนก็อาจจะเคยได้ลองกินแมงกะพรุนกันอยู่บ้าง ซึ่งต้องบอกว่าเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่เต็มไปด้วยความอร่อยและสามารถนำมาประกอบทำเป็นเมนูอาหารไม่แพ้กับอาหารทะเลชนิดอื่น ๆ เลย หากคุณแม่คนไหนที่อยากจะลองกินแมงกะพรุนบ้าง แต่เราก็ยังไม่ได้รู้แน่ชัดว่า คนท้องกินแมงกะพรุนได้ไหม กินแล้วจะเป็นอย่างไรต่อร่างกาย เอาเป็นว่าเรามาดูคำตอบไปพร้อมกันเลยนะคะ

แมงกะพรุนมีประโยชน์อย่างไร? วันนี้มีคำตอบ!

เชื่อว่าใครหลายคนก็อาจจะยังไม่ค่อยทราบกันดีว่า ทุกครั้งที่เรากินแมงกะพรุนเข้าไปนั้น สิ่งเหล่านี้มีประโยชน์ต่อเราในเรื่องไหนบ้าง หรือหากเรากินเข้าไปแมงกะพรุนเหล่านี้จะส่งผลดีอย่างไรต่อร่างกาย บอกเลยนะคะว่าหากใครที่ได้รู้คำตอบแล้ว เราอาจจะอยากกินแมงกะพรุนขึ้นมาเลยก็ได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินอาหารทะเลได้ไหม อาหารทะเลแบบไหนที่ต้องเลี่ยง !

1. ช่วยชะลอความแก่

ประโยชน์อย่างแรกของแมงกะพรุนที่เห็นได้ค่อนข้างชัดเจนเลยคือ การที่เรากินแมงกะพรุนเข้าไปนั้น สิ่งนี้จะเข้าไปช่วยชะลอความแก่ให้กับคุณแม่ได้ เพราะภายในตัวแมงกะพรุนจะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะเข้ามาช่วยทำให้เสริมสร้างเซลล์ภายในร่างกายของเรา เพราะฉะนั้นหากใครที่ไม่อยากแก่ หรืออยากมีผิวพรรณที่สวยเปล่งปลั่งอยู่เสมอ เราก็อาจจะลองกินแมงกะพรุนดูบ้างนะคะ

2. ช่วยส่งเสริมในเรื่องของผิว

สิ่งสำคัญต่อมาของการกินแมงกะพรุนเลยคือ ช่วยทำให้เรามีผิวพรรณที่สวยแลดูสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น เพราะภายในตัวแมงกะพรุนจะประกอบไปด้วยคอลลาเจนที่จะช่วยส่งเสริมในเรื่องของผิวภายในร่างกายของเราได้ดีมาก ๆ เลย ดังนั้นใครที่กำลังมีปัญหาในเรื่องของผิว และอยากเป็นคนที่มีผิวพรรณค่อนข้างดี เราก็อาจจะหันมากินอาหารทะเลอย่างแมงกะพรุนดูบ้างนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ครีมสำหรับคนท้อง ครีมทาหน้า ที่เหมาะสำหรับคุณแม่!

วิธีการนำแมงกะพรุนมาทำการแปรรูป เป็นอย่างไร?

จากที่เราได้ทราบถึงประโยชน์ของแมงกะพรุนกันไปแล้วนั้น หลายคนก็คงอยากรู้เกี่ยวกับการนำแมงกะพรุนมาทำการแปรรูปอยู่แน่ ๆ หากใครที่กำลังอยากทราบกันอยู่พอดีว่า แมงกะพรุนที่เราเห็นกันอยู่ในตอนนี้ โดยส่วนใหญ่นำมาแปรรูปกันอย่างไรบ้าง เอาเป็นว่าเรามาดูไปพร้อมกันเลยนะคะ

ขั้นตอนการทำแมงกะพรุนแปรรูป

1. สิ่งแรกที่เราจะต้องทำเลยคือ ให้เรานำแมงกะพรุนที่ได้จากทะเลมานั้น มาทำการแช่เบกกิ้งโซดา และสารส้มให้เรียบร้อย ซึ่งระยะเวลาในการแช่นั้น เราจะทำการแช่เป็นเวลาประมาณ 1 คืน ซึ่งการที่เราทำแบบนี้ก็เพราะว่าเป็นการกำจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ในตัวของแมงกะพรุน รวมถึงเป็นขั้นตอนการกำจัดพิษ และเมือกที่อยู่ภายในตัวแมงกะพรุนนั่นเองค่ะ

2. ขั้นตอนต่อมา หลังจากที่เราทำการแช่สารส้ม และเบกกิ้งโซดามาทั้งคืนแล้วนั้น เราจะสังเกตเห็นตัวแมงกะพรุนที่ค่อนข้างมีสีใสมากยิ่งขึ้น เมื่อแมงกะพรุนที่เราแช่นั้นมีลักษณะดังกล่าวแล้ว จากนั้นก็ให้เรานำแมงกะพรุนมาทำการตัดส่วนที่เป็นหัวและหางออกให้เรียบร้อย เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วให้เรานำส่วนแมงกะพรุนที่ได้มาทำการแช่ลงไปในเบกกิ้งโซดา สารส้ม และเกลืออีกรอบ เมื่อทำการแช่ทิ้งไว้สักพักเราก็จะสังเกตเห็นเลยค่ะว่าเนื้อของแมงกะพรุนเริ่มยุบลง อีกทั้งยังมีความแห้งและแข็งตัวมากยิ่งขึ้นด้วย

3. เมื่อเราทำการแช่แมงกะพรุนทิ้งไว้ได้ประมาณ 1 คืนเรียบร้อยแล้ว จากนั้นให้เรานำแมงกะพรุนที่ได้ไปทำการตากแดด หรือตากแห้งอีกครั้ง และเมื่อแมงกะพรุนที่นำไปตากนั้นเริ่มแห้ง เราก็จะได้แมงกะพรุนที่มีสีน้ำตาลอ่อน ๆ เกิดขึ้น อีกทั้งยังได้แมงกะพรุนเนื้อกรอบเพิ่มขึ้นมาอีกด้วยเลยนะคะ

คนท้องกินแมงกะพรุนได้ไหม?

แน่นอนค่ะว่า สิ่งนี้น่าจะเป็นคำถามที่คุณแม่หลายคนมักชอบถามกันอยู่บ่อย ๆ สำหรับคุณแม่คนไหนที่กำลังอยากทราบว่า เราสามารถกินแมงกะพรุนในช่วงตั้งท้องได้ไหม ต้องบอกว่าแมงกะพรุนเป็นสิ่งที่คุณแม่ท้องสามารถกินได้ แต่เราอาจจะต้องคอยระวัง และกินให้อยู่ในปริมาณที่น้อย หรือในปริมาณเท่าที่กินได้ เพราะหากเราไม่ระวังในเรื่องนี้เลย สิ่งนี้ก็อาจจะเกิดผลไม่ดีทั้งต่อตัวเราและลูกในท้องได้เลย ดังนั้นควรต้องระวังเรื่องนี้กันด้วยนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินปลาหมึกได้ไหม กินแล้วปลอดภัยหรือเปล่า? มาดูกัน

เคล็ดลับ! ล้างแมงกะพรุนอย่างไร? ให้ปลอดภัย

ก่อนที่เราจะนำแมงกะพรุนมาประกอบทำเป็นเมนูอาหารแล้วนั้น แน่นอนว่าเราอาจจะต้องดูดี ๆ ค่ะว่าแมงกะพรุนที่เราซื้อมานั้นมีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน และที่สำคัญไปกว่านั้นเลย เราอาจจะต้องทำการล้างแมงกะพรุนก่อนที่จะนำมาประกอบทำเป็นเมนูอาหารทุกครั้ง ส่วนจะมีขั้นตอน หรือวิธีการล้างอย่างไรกันบ้าง มาดูไปพร้อมกันได้เลยค่ะ

1. ทำการแช่ด้วยน้ำเปล่า

วิธีการล้างแมงกะพรุนแบบง่าย ๆ อย่างแรกเลยคือ เราอาจจะต้องทำการล้าง หรือแช่แมงกะพรุนด้วยน้ำเปล่าให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งอาจจะต้องทำการล้างบ่อย ๆ ในหลาย ๆ น้ำ จนกว่าแมงกะพรุนจะเริ่มหายเค็ม เมื่อเราทำการล้างบ่อย ๆ หากจะทำให้แมงกะพรุนหายเค็มได้เร็วขึ้น เราก็อาจจะต้องทำการแช่น้ำเปล่าเป็นเวลาประมาณ 10 – 20 นาที ตามไปด้วย เพียงเท่านี้เราก็จะได้แมงกะพรุนที่สะอาดมากขึ้นเลยล่ะค่ะ

2. ทำการแช่น้ำชา

สิ่งที่จะทำให้แมงกะพรุนของเราหายเค็มขึ้นมาอีกหนึ่งวิธีเลยคือ เราอาจจะนำแมงกะพรุนมาทำการแช่ในน้ำชาที่มีสารแทนนินเป็นส่วนผสมลงไปด้วย เพื่อที่สารชนิดนี้จะได้ช่วยทำให้เกลือที่อยู่ในตัวของแมงกะพรุนเริ่มมีการคายตัวมากขึ้น โดยการแช่ในน้ำชานี้เราอาจจะแช่ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง จากนั้นก็นำไปล้างในน้ำชาให้บ่อยขึ้น เพียงเท่านี้เราก็จะได้แมงกะพรุนที่อร่อยและปลอดภัยมากขึ้นเลยนะคะ

3. ทำการแช่ในน้ำปูนใส

อีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้แมงกะพรุนเราหายเค็มขึ้นมาได้ เราก็อาจจะต้องนำแมงกะพรุนที่ได้มาทำการแช่ลงไปในน้ำปูนใสได้เลย ซึ่งในการแช่นั้นเราอาจจะต้องทำการแช่เป็นเวลาประมาณ 30 นาที เมื่อครบเวลาที่กำหนด เราก็สามารถนำไปล้างด้วยน้ำเปล่าได้เลย ที่สำคัญไปกว่านั้นก็ต้องบอกว่าการล้างแมงกะพรุนด้วยวิธีนี้ ยังช่วยทำให้แมงกะพรุนมีความกรอบเด้งอีกด้วยนะคะ เพราะฉะนั้นต้องลองแล้ว

4. ทำการแช่ในน้ำเกลือ

วิธีต่อมาเราก็อาจจะนำแมงกะพรุนที่ได้มาแช่ลงไปในน้ำเกลือได้ด้วยนะคะ โดยการแช่นั้นเราอาจจะทำการแช่เป็นเวลาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมงเท่านั้น จากนั้นก็ให้เราทำการล้างแมงกะพรุนด้วยน้ำสะอาดได้ตามปกติเลย บอกเลยนะคะว่า เราจะต้องดื่มด่ำกับความอร่อยของตัวแมงกะพรุนขึ้นมาได้มาก ๆ เลยทีเดียว

หลังจากที่เราได้พาคุณแม่มีทำความรู้จัก และได้ทำความเข้าใจกับการกินแมงกะพรุนกันมากขึ้นแล้วนั้น ต้องบอกเลยนะคะว่า อาหารทะเลชนิดนี้ไม่ได้เป็นอันตราย และค่อนข้างที่จะมีประโยชน์ต่อร่างกายได้ หากเรากินในปริมาณที่เหมาะสม และรู้จักวิธีการกินอย่างถูกต้องนั่นเองค่ะ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

แม่ท้องสายปลาดิบต้องรู้ ! คนท้องกินแซลมอนดิบได้ไหม ดีต่อร่างกายหรือเปล่า ?

เนื้อปลา ดีต่อแม่ท้องอย่างไร คนท้องกินปลาอะไรได้บ้าง?

คนท้องกินปูได้ไหม อาหารทะเลส่งผลอันตรายต่อแม่ท้องหรือไม่? มาดูกัน

ที่มา : 1, 2