ต่อมบาร์โธลินอักเสบ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่ผู้หญิงควรรู้จัก

เมื่อเวลาผ่านไป การเติบโตขึ้นและมีความรัก อาจจะมีเรื่องของ Sex เข้ามาเกี่ยวข้องได้ ซึ่งถึงแม้จะป้องกันด้วยยาคุมกำเนิด หรือถุงยางอนามัย แต่กา 

 1020 views

เมื่อเวลาผ่านไป การเติบโตขึ้นและมีความรัก อาจจะมีเรื่องของ Sex เข้ามาเกี่ยวข้องได้ ซึ่งถึงแม้จะป้องกันด้วยยาคุมกำเนิด หรือถุงยางอนามัย แต่การเจ็บป่วยเพราะโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้อยู่ดี ดังเช่นอาการเจ็บเพราะ ต่อมบาร์โธลินอักเสบ



ซึ่งอาการเจ็บเหล่านี้ มักเกิดขึ้นกับเพศหญิงวัยเจริญพันธุ์ บางครั้งอาจจะเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ก็ได้ หรืออาจจะเกิดจากการใส่กางเกงที่รัดแน่นจนเกินไป วันนี้ Mamastory จะพาไปดูว่า อาการเป็นอย่างไร และควรป้องกันหรือแก้ไขอย่างไร ดูได้เลยค่ะ



ต่อมบาร์โธลินอักเสบ ถุงน้ำที่ยื่นจากปากช่องคลอด

โรคฝีต่อมบาร์โธลิน หรือ ต่อมบาร์โธลินอักเสบ (Bartholin’s Cyst) คือการที่ต่อมบาร์โธลินบวมขึ้น จนกลายเป็นถุงน้ำออกมาบริเวณปากช่องคลอด เนื่องจากเมือกไม่สามารถผ่านออกมาได้ เกิดการอุดตันทำให้เมือกที่สร้างจากต่อมบาร์โธลิน เกิดการสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ

ซึ่งต่อมบาร์โธลิน มีหน้าที่ผลิตสารหล่อลื่น เพื่อป้องกันเนื้อเยื่อช่องคลอด ในช่วงเวลามีเพศสัมพันธ์ ทั้งนี้ต่อมบาร์โธลินจะมีอยู่สองข้างและมักพบการอักเสบได้ทีละข้าง ในบางรายอาจเกิดการติดเชื้ออักเสบ เป็นฝีหนองตามมาทำให้เกิดอาการเจ็บปวดมากบริเวณที่เป็น

ต่อมบาร์โธลินอักเสบ



ฝีต่อมบาร์โธลิน และฝีธรรมดาบริเวณอวัยวะเพศหญิง

ฝีต่อมบาร์โธลิน เกิดจากการอักเสบของต่อมบาร์โธลิน ส่วนฝีธรรมดาบริเวณอวัยวะเพศหญิงนั้น เป็นฝีที่เกิดจากสิ่งสกปรก อุดตันรูขุมขน มีอาการอักเสบ เป็นหนอง บริเวณอวัยวะเพศหญิง



สาเหตุที่ต่อมบาร์โธลินอักเสบ

ในภาวะปกติของร่างกาย ต่อมบาร์โธลินจะคลำหาไม่เจอ แต่เมือกจะถูกสร้างออกมา และส่งไปตามท่อออกมายังปากช่องคลอด แต่หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับต่อมบาร์โธลิน ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบได้ ดังสาเหตุต่อไปนี้



1. ต่อมบาร์โธลินอุดตัน

ส่วนมากมักพบในสตรีวัยเจริญพันธุ์ มักเกิดการอุดตันที่ข้างใดข้างหนึ่ง อาจมีสาเหตุมาจากการสวมกางเกงในรัด กางเกงที่คับรัดรั้งเป้าเกินไป หรืออาจเกิดจากการปั่นจักรยานบ่อย ๆ เมื่อต่อมบาร์โธลินอุดตันเมือกที่สร้างขึ้น ก็จะสะสมและค้างอยู่ในท่อ จนเกิดเป็นลักษณะคล้ายถุงน้ำเป็นก้อน ๆ ที่สามารถคลำด้วยมือเปล่าเจอ



2. เป็นหนองจากการติดเชื้อ

เมื่อร่างกายเกิดภาวะต่อมบาร์โธลินอุดตัน จนกลายรูปร่างเป็นถุงน้ำ เชื้อโรคต่าง ๆ ก็อาจจะเข้าไปสะสมอยู่ในถุงน้ำ ก่อให้เกิดภาวะอักเสบ บวม และเป็นหนองขึ้นมาได้

บทความที่เกี่ยวข้อง : แม่ท้องกับภาวะ เชื้อราในช่องคลอด อันตรายหรือไม่ ส่งผลต่อทารกอย่างไร



3. อักเสบเพราะโรคติดต่อจากเพศสัมพันธ์

การติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือเชื้อโรคจากโรคดังกล่าว จำพวกหนองในแท้ และหนองในเทียม รวมไปถึงเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ก็อาจเป็นสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ต่อมบาร์โธลินอุดตัน และติดเชื้อจนอักเสบขึ้นมาได้



นอกจากนี้อาการติดเชื้อหรือการอักเสบของต่อมบาร์โธลิน อาจจะเกิดได้จากสาเหตุอื่นเช่นกัน อาทิเช่น

  • สิ่งสกปรก หมักหมมบริเวณปากช่องคลอด เช่น เหงื่อ เมือก หรือปัสสาวะ
  • ติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณอวัยวะเพศ
  • สวมชุดชั้นในที่อับชื้น และรัดตึงเกินไป



อาการของโรคฝีต่อมบาร์โธลิน 

  • ต่อมบาร์โธลิน บวมจนเป็นก้อน จนเกิดอาการปวด
  • มีอาการเจ็บระหว่างขา ขณะทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
  • การอักเสบจะทำให้ฝีแตก มีหนองออกมา เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น
  • คลำพบก้อนที่ปากช่องคลอด
  • ก้อนใหญ่จนระคายเคือง เจ็บที่ปากช่องคลอด
  • ก้อนถุงน้ำบวม แดง มีหนอง ปวดแสบร้อน ร่วมกับอาการไข้ขึ้น หนาวสั่น เมื่ออาการรุนแรง



ต่อมบาร์โธลินอักเสบ



อย่างไรก็ตาม ในระยะแรกที่ต่อมบาร์โธลินมีความผิดปกติ อาจจะไม่แสดงอาการภายนอกมากนัก แต่หากคลำบริเวณอวัยวะเพศแล้ว พบก้อนติ่งบริเวณปากช่องคลอด จากที่ไม่เคยคลำพบมาก่อน ก็ควรไปตรวจกับสูตินรีแพทย์ เพื่อวินิจฉัยหาอาการโดยเฉพาะ หากในผู้ที่ฝีไม่ยุบ และมีขนาดก้อนใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ



การรักษาโรคฝีต่อมบาร์โธลิน

  •  เมื่อพบถุงน้ำจากการบวมของต่อมบาร์โธลิน และยังไม่มีอาการปวด ให้แช่น้ำอุ่น วันละ2-3 ครั้ง ครั้งละ 20 นาที จะทำให้ถุงน้ำยุบลงได้
  • หากมีอาการปวดบวมของถุงน้ำ แพทย์จะให้ยาฆ่าเชื้อ และยาแก้อักเสบ หากอาการยังไม่ดีขึ้น จะต้องทำการกรีดระบายหนองออก
  • หากมีอาการต่อมบาร์โธลินอักเสบซ้ำ เกิดฝีขึ้นอีกรอบ เคสนี้แพทย์อาจทำการผ่าตัดขูดหัวหนอง หรือถุงน้ำในต่อมบาร์โธลิน ซึ่งจะช่วยลดโอกาสเกิดการอักเสบซ้ำได้



การป้องกันโรคฝีต่อมบาร์โธลิน 

  • ทำความสะอาดอวัยวะเพศทุกวัน เวลาอาบน้ำ และหลังมีเพศสัมพันธ์ โดยใช้น้ำสะอาดล้างภายนอก บริเวณปากช่องคลอด
  • ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยครั้ง ในช่วงของการมีประจำเดือน ไม่ควรปล่อยให้อวัยวะเพศอับชื้นเป็นเวลานาน
  • ไม่ควรบีบหนองออกเอง เมื่อพบถุงน้ำจากการบวมของต่อมบาร์โธลิน เพราะ จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้
  • ควรไปพบแพทย์ทันที หากมีอาการผิดปกติที่อวัยวะเพศ



วิธีปฏิบัติตัวหลังการทำการระบายหนอง

  1. งดมีเพศสัมพันธ์ 7 วันภายหลังการทำหัตถการ
  2. รักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศให้สะอาดอยู่เสมอ และช่วงมีประจำเดือนควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ
  3. ไม่ใส่กางเกงที่รัดแน่นเกินไป
  4. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และมาตรวจนัด



ไม่ว่าจะเป็นฝีต่อมบาร์โธลิน หรือฝีธรรมดาบริเวณอวัยวะเพศหญิง ไม่ควรที่จะกรีดหนอง และรักษาด้วยตนเอง เพราะจะทำให้เกิดการติดเชื้อ การอักเสบลุกลามขึ้น ไม่สามารถทำให้ฝีหายขาดได้ 

นอกจากนี้การไปตรวจภายใน เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ควรรู้และระวัง เมื่อเกิดอาการผิดปกติกับตัวเอง อย่าอายในการที่จะต้องตรวจภายใน เพราะหากพบความผิดปกติและรักษาได้ไว ย่อมดีกว่าปล่อยความผิดปกติไว้ จนกลายเป็นอันตรายที่เกินกว่าจะรักษาค่ะ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ซิฟิลิส โรคร้ายที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สาเหตุ อาการ และวิธีการรักษา

มะเร็งเต้านม โรคร้ายใกล้ตัวผู้หญิง สาเหตุ อาการ และวิธีการรักษา

รู้ทัน “วัณโรค” โรคติดต่อจากเชื้อแบคทีเรีย สาเหตุ อาการ และวิธีการรักษา

ที่มา : 1