ไอโอดีนคนท้องต้องระวัง ขาดเมื่อไหร่อันตรายกว่าที่คิด !

ทุกคนรู้หรือไม่ ? ไอโอดีนคนท้องเป็นสิ่งที่ต้องระวัง เนื่องจากหากปล่อยให้ร่างกายของแม่ท้องขาดแร่ธาตุไอโอดีน จะส่งผลเสียต่อทั้งคุณแม่ และทารกในครรภ์ได้ สำหรับทารกนั้นอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้แท้งบุตรได้ ส่วนคุณแม่จะส่งผลให้เกิดความเสี่ยงโรคร้ายอื่น ๆ ตามมา โดยเฉพาะการทำงานของต่อมไทรอยด์ที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ

ทำไมไอโอดีนจึงเป็นสารอาหารที่สำคัญ ?

ไอโอดีน (Iodine) ถือเป็นสารอาหารแร่ธาตุชนิดหนึ่ง ที่ถูกนำไปใช้กับร่างกาย และมีความสำคัญในระดับเซลล์ องค์การอนามัยโลก (World Health Organization) หรือ WHO ให้คำแนะนำเอาไว้ว่า คนทั่วไปควรบริโภคไอโอดีนไม่เกิน 1 ช้อนชา / วัน หรือ 150 ไมโครกรัม / ลิตร เพราะการขาดสารไอโอดีน สามารถส่งผลต่อการสร้างไทรอยด์ฮอร์โมน (Thyroid Hormone)  ทำให้สูญเสียสมดุลในการควบคุมการทำงานของร่างกายได้ โดยการป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนสามารถป้องกันได้โดยการบริโภคอาหารที่มีไอโอดีน และแน่นอนว่าสำหรับแม่ท้องจะต้องดูแลเรื่องสารอาหารชนิดนี้เป็นพิเศษด้วยเช่นกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง : แคลเซียมแม่ท้อง สารอาหารที่ร่างกายคุณแม่ผลิตเองไม่ได้

วิดีโอจาก : ศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา

ไอโอดีนคนท้อง สำคัญอย่างไร ?

ไอโอดีนมีส่วนสำคัญต่อการทำงานของร่างกาย โดยเฉพาะการทำงานของระบบแระสารท และสมอง แน่นอนว่าหากรับไม่เพียงพอจะส่งผลให้สมองของทารกเกิดความพิการได้ ด้วยสถิติที่ผ่านมาบ่งชี้ว่าเด็กไทยมีแนวโน้มขาดไอโอดีนกันมากขึ้น ส่งผลให้มีระดับ IQ ต่ำกว่ามาตรฐานได้ และส่งผลให้ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ คงจะดีกว่าหากแม่ท้องทานอาหารที่มีไอโอดีน ในปริมาณที่เหมาะสม เพียงพอต่อตนเอง และทารกในครรภ์ เพราะร่างกายของคุณแม่ หรือทารกไม่สามารถสร้างไอโอดีนได้เอง สารแร่ธาตุนี้จะมาจากการทานอาหาร หรือทานยาเสริมที่ปลอดภัยเท่านั้น

นอกจากนี้การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในแม่ท้อง เช่น ไต จะทำงานหนักกว่าคนทั่วไป ส่งผลให้ร่างกายจะขับไอโอดีนออกจากร่างกายมากกว่าปกติด้วยนั่นเอง จึงอาจทำให้ร่างกายขาดไอโอดีนได้ โดยทารกในครรภ์นั้นจะรับสารอาหารชนิดนี้ผ่านรกเพื่อพัฒนาระบบประสาท และสมอง สำหรับแม่ท้องควรรับไอโอดีนให้ได้ 250 ไมโครกรัม / วันเป็นอย่างต่ำ และควรวางแผนเรื่องสารอาหารต่าง ๆ ก่อนการตั้งครรภ์ประมาณ 5 เดือน หากสามารถวางแผนการตั้งครรภ์ได้ เพื่อไม่ให้ทารกในครรภ์เสี่ยงขาดสารอาหารโดยที่คุณแม่ไม่รู้ตัว

คนท้องขาดไอโอดีนจะเป็นอย่างไร ?

เมื่อแม่ท้องรับไอโอดีนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จะไม่ได้ส่งผลต่อร่างกายของแม่ท้องเท่านั้น แต่ยังสามารถส่งผลเสียที่ร้ายแรงต่อทารกน้อยในครรภ์ได้ด้วย ดังนี้

• ผลกระทบต่อแม่ท้อง : ทำให้เกิดความผิดปกติของการทำงานในร่างกายไม่ว่าจะเป็นต่อมไทรอยด์ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ, เสี่ยงต่อการเกิดโรคคอหอยพอก, ทำให้ร่างกายมีความอ่อนเพลีย, หัวใจเต้นผิดปกติ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งเต้านม เป็นต้น
• ผลกระทบต่อทารกในครรภ์ : ทำให้เสี่ยงต่อภาวะอันตรายที่อาจถึงชีวิตได้ เช่น ภาวะแท้งบุตร, เสียชีวิตตั้งแต่แรกเกิด หรือส่งผลให้ร่างกายเกิดความผิดปกติ เช่น ภาวะพิการทางสมอง, ทารกตัวเล็ก พัฒนาการช้า ดูดนมแม่ไม่ค่อยได้, พิการแต่กำเนิด หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นต้น

ด้วยผลกระทบที่ชัดเจนว่าทารกจะได้รับผลที่ร้ายแรงกว่า ถึงขั้นเสี่ยงเสียชีวิตได้ การรับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุสารอาหารครบตลอดทั้ง 3 ไตรมาส จึงเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้ทารก และคุณแม่ปลอดภัยแข็งแรง ดังนั้นคุณแม่จึงต้องรู้ก่อนว่าอาหารแบบไหน ที่มีไอโอดีน และปลอดภัยสำหรับการตั้งครรภ์

บทความที่เกี่ยวข้อง : โพแทสเซียมกับแม่ท้อง มากเกิน น้อยเกิน ไม่ส่งผลดี ทานอย่างไรให้พอเหมาะ ?

แม้จะอยู่ในช่วงให้นมลูก ไอโอดีนยังคงสำคัญ

แม้ว่าจะผ่านการคลอดบุตรแล้ว คุณแม่อาจวางใจว่าตนเองปลอดภัย ลูกน้อยก็ดูแข็งแรงดี คงหมดห่วงเรื่องสารอาหาร และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อทารกได้แล้ว หากคุณแม่คนไหนที่กำลังเข้าใจแบบนี้อยู่ ถือว่าเข้าใจผิดอย่างมาก เนื่องจากน้ำนมของแม่เป็นแหล่งสารอาหารที่สำคัญของทารก สารอาหารทุกอย่างจะมาจากนมแม่เท่านั้น นมแม่อุดมไปด้วยไอโอดีน และเพียงพอต่อความต้องการของทารกน้อยอย่างแน่นอน หากทารกขาดไอโอดีน ก็จะมีความเสี่ยงอื่น ๆ ตามมาอยู่ดี โดยเฉพาะการทำงานของระบบสมอง และประสาท ส่งผลต่อการเรียนรู้ และระดับ IQ อย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้นนั่นเอง

สำหรับปริมาณไอโอดีนที่ทารกควรได้รับนั้นจะอยู่ที่ 40 – 50 ไมโครกรัม / วัน สำหรับทารกอายุแรกเกิด – อายุ 6 เดือน ส่วนทารกอายุ 6 เดือน – 6 ปี ควรรับให้ได้วันละ 50 – 90 ไมโครกรัม ส่วนตัวของคุณแม่ในช่วงให้นมลูกนี้ ควรรับไอโอดีนให้เพียงพอประมาณ 200 ไมโครกรัมขึ้นไป

อาหารที่มีไอโอดีนสำหรับคนท้อง

ไอโอดีนคนท้องมีความสำคัญ และต้องทานจากอาหารให้เพียงพอ ความจริงแล้วแร่ธาตุที่สำคัญตัวนี้ ไม่ได้หายาก หรือไกลตัว แต่พบได้ในเมนูอาหารง่าย ๆ ที่คุณแม่อาจมองข้ามไป ตัวอย่างเช่น

• ไข่ไก่ 1 ฟอง (22 ไมโครกรัม)
• ปลากระบอก 2 ช้อนกินข้าว (7.8 ไมโครกรัม)
• กุ้งทะเล 2 ช้อนกินข้าว (19.9 ไมโครกรัม)
• ปลาทูนึ่ง 2 ช้อนกินข้าว (14.4 ไมโครกรัม)
• ไข่เป็ด 1 ฟอง มี 26 ไมโครกรัม

นอกจากเมนูอาหารที่เราได้กล่าวไปแล้ว ไอโอดีนยังหาได้จากอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย ได้แก่ อาหารทะเล ที่คุณแม่ต้องเลือกทานให้ดี เนื่องจากปลาทะเลสายพันธุ์ใหญ่ หรือบางชนิดมีปรอทมากเกินไป, น้ำมันตับปลา, เกลือทะเล, ไข่, ผักกาดเขียว, นม, เมล็ดงา หรือจะรับจากผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปมา เช่น น้ำปลา หรือกล้วยตาก เป็นต้น รวมถึงอาหารเสริมต่าง ๆ ที่คุณแม่สามารถหามาทานได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ด้วย

ไอโอดีนคนท้องสำคัญกว่าที่คิด หากคุณแม่ไม่ได้ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ แล้วร่างกายไม่แข็งแรงพอ ทุกอย่างจะสะท้อนไปสู่ทารกด้วย การรับไอโอดีนระหว่างที่กำลังตั้งครรภ์นั้นทำได้ไม่ยาก หากมีการวางแผนและตารางอาหารที่ถูกต้องสมบูรณ์

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

แม่ต้องรู้! ธาตุเหล็กสำหรับคนท้อง ส่งผลดีต่อลูกอย่างไร ?

แคนตาลูป ช่วยบำรุงครรภ์อย่างไร แม่ท้องกินแคนตาลูปได้ประโยชน์ไหม ?

ธัญพืช อาหารบำรุงคนท้อง เพื่อสุขภาพที่ดีของแม่และลูกน้อย

ที่มา : 1, 2, 3