ในเรื่องของอาหารการกิน สำหรับใครที่ชอบกินเผือกเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว บอกเลยว่าวัตถุดิบชนิดนี้ สามารถนำไปประกอบทำเป็นเมนูอาหารได้อย่างหลากหลายมาก ๆ หรือใครที่อยากจะรู้ว่าหากเรากินเผือกเข้าไปแล้วนั้น สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะส่งผลดีทั้งต่อตัวเราและลูกน้อยได้อย่างไรบ้าง เอาเป็นว่าเรามาไขข้อสงสัยกับคำพูดที่ว่า คนท้องกินเผือกได้ไหม พร้อมกันเลยค่ะ
คนท้องกินเผือกได้ไหม? กินแล้วส่งผลอย่างไรบ้าง?
สำหรับคุณแม่บางคนเมื่อเราเริ่มเข้าสู่การเป็นคุณแม่มือใหม่ ก่อนที่เราจะกินอะไรเข้าไปนั้น เชื่อว่าเราก็อาจจะต้องคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาด้วย และหากคุณแม่คนไหนที่กำลังสงสัยอยู่แล้วล่ะก็ อยากที่จะทราบว่าเราสามารถกินเผือกในช่วงตั้งท้องได้ไหม ขอบอกเลยนะคะว่าสามารถกินได้ตามปกติเลยล่ะค่ะ แต่ในขณะเดียวกันเราก็อาจจะต้องคอยระวังกันด้วยนะคะ เพราะเมื่อไหร่ที่คุณแม่มีอาการแพ้เผือกขึ้นมา สิ่งนี้ก็อาจจะเกิดอันตรายกับคุณแม่และลูกในท้องได้ ทางที่ดีเราก็อาจจะต้องกินแบบสุก หรือนำไปผ่านความร้อนให้เรียบร้อยก่อนจะดีกว่า
รู้หรือไม่! เผือกมีประโยชน์อย่างไร? มาดูคำตอบกัน
การที่เรากินเผือกเข้าไปนั้น บางคนก็อาจจะยังไม่ได้รู้ถึงคุณประโยชน์ขนาดว่า สิ่งที่เรากินเข้าไปนั้นสามารถส่งผลดีต่อร่างกายได้อย่างไรบ้าง หรือหากกินไปแล้วเราจะมีสุขภาพที่ดีขนาดไหน หากใครที่พร้อมแล้วเรามาดูคำตอบไปพร้อมกันเลยนะคะ บอกเลยว่าประโยชน์เพียบเลย
บทความที่เกี่ยวข้อง : หัวไชเท้า คืออะไร? คนท้องกินหัวไชเท้าได้ไหม วันนี้มีคำตอบ
1. ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง
ต้องบอกเลยว่าเผือกเป็นหนึ่งในอาหารที่มีธาตุเหล็กและฟลูออไรด์ค่อนข้างสูง หากเมื่อไหร่ที่เรากินสิ่งนี้เข้าไป ร่างกายของเราก็จะมีโครงสร้างของกระดูกที่แข็งแรง อีกทั้งยังทำให้สุขภาพร่างกายของเราแข็งแรงตามไปด้วย เพราะฉะนั้นใครที่อยากเป็นคุณแม่ที่มีสุขภาพที่ดีอาจจะต้องกินเผือกกันบ้างนะคะ
2. ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด
นอกจากนี้เผือกยังอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญอย่างคาร์โบไฮเดรตที่จะช่วยในเรื่องของการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้กับเราได้ และถ้าเมื่อไหร่ที่คุณแม่รู้สึกว่าร่างกายของเราเริ่มมีระดับน้ำตาลในเลือดค่อนข้างสูงมาก ๆ จากที่เราต้องดูแลรักษาสุขภาพร่างกายในเรื่องต่าง ๆ แล้วนั้น คุณแม่ก็อาจจะต้องหันมาใส่ใจในเรื่องอาหารการกินให้มากขึ้น เช่น การกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ อย่างการกินเผือกได้เลยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : มาดู น้ำตาลในเลือดผิดปกติ ภาวะที่พบได้บ่อยในเด็กทารกแรกเกิด
3. ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
เท่านั้นยังไม่พอการที่เราเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์อย่างการกินเผือกแล้วนั้น สิ่งนี้ยังเข้าไปช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจให้กับคุณแม่ได้ดีอีกด้วย เพราะภายในตัวเผือกจะมีไฟเบอร์และแป้งที่มีคุณสมบัติช่วยชะลอการดูดซึมไขมันในร่างกาย ทำให้เรามีร่างกายที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น และเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ค่อนข้างน้อยมาก ๆ เลยล่ะค่ะ
4. ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง
สำหรับการกินเผือกนั้น เชื่อหรือไม่คะว่าสิ่งนี้จะเข้าไปช่วยต้านโรคมะเร็งในร่างกายให้กับเราได้ เพราะภายในตัวเผือกจะมีสารประกอบที่สำคัญอย่างโพลีฟีนอล อาทิเช่น เควอซิทีน ที่จะเข้ามาช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งให้กับเราได้เป็นอย่างดีเลย เอาเป็นว่าหากคุณแม่คนไหนที่อยากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ และไม่อยากป่วยเป็นโรคมะเร็ง การกินเผือกก็ถือเป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่จะช่วยทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงขึ้นมาได้เช่นกัน
5. ช่วยบำรุงลำไส้
รู้หรือไม่คะว่า การที่เรากินเผือกกันเป็นประจำนั้น สิ่งนี้จะเข้ามาช่วยบำรุงลำไส้ให้กับเราได้ด้วย ยิ่งใครที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับระบบลำไส้แล้วล่ะก็ เราก็อาจจะลองกินเมนูอาหารที่ดีและมีประโยชน์กันให้มากขึ้นด้วยนะคะ บอกเลยว่าคุณประโยชน์ของเผือกนั้นมีเต็มเปี่ยมแบบสุด ๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ท้องผูก ทำอย่างไรดี? พร้อมวิธีการรับมือสำหรับคนท้อง
สิ่งที่ควรระวังในการกินเผือกมีอะไรบ้าง?
เผือกที่เรากำลังพูดถึงอยู่ในตอนนี้ จะเป็นเมนูอาหารที่ค่อนข้างเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์อยู่ก็จริง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราไม่ได้รู้จักวิธีการกินที่ถูกต้อง สิ่งนี้ก็อาจจะกลับกลายเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายของคุณแม่ได้ง่าย ๆ เหมือนกัน สำหรับใครที่อยากทราบว่า ข้อควรระวังในการกินเผือกนั้นมีอะไรบ้าง มาดูไปพร้อมกันเลยนะคะ
1. มีอาการแพ้เผือก
การกินเผือกเป็นอะไรที่มีประโยชน์ แต่สำหรับบางคนก็อาจจะไม่ได้ส่งผลดีให้กับเขาได้เสมอไป ต้องบอกว่าในขณะที่เรากำลังกินเผือกเข้าไปแล้วนั้น เราอาจจะต้องดูด้วยว่ามีอาการอื่น ๆ เกิดขึ้นตามมาทีหลังหรือเปล่า เพื่อที่เราจะได้มั่นใจว่าเราไม่ได้มีอาการแพ้เผือกเกิดขึ้น แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราเริ่มมีอาการลิ้นชา คันในช่องปาก หรือเกิดสิ่งต่าง ๆ ตามมาหลังจากกินเผือกแล้วล่ะก็ สิ่งนี้ก็อาจจะกำลังบ่งบอกเราว่า เรากำลังมีอาการแพ้เกิดขึ้นนั่นเองค่ะ
2. กินเผือกแบบดิบ ๆ
สิ่งที่เราอาจจะต้องทำการระวังต่อมาเลยคือ การที่เรากินเผือกแบบดิบ ๆ หรือกินโดยที่ไม่ได้นำไปผ่านความร้อนก่อน สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้เรารู้สึกคันบริเวณช่องมากขึ้นมาได้เหมือนกัน เพราะบริเวณที่เป็นหัว และต้นของเผือกนั้นจะมี Calcium oxalate ที่มีฤทธิ์ทำให้เรารู้สึกคันขึ้นมา เอาเป็นว่าใครที่ไม่อยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง เราอาจจะต้องนำไปผ่านความร้อน หรือต้มให้สุกก่อนกินนะคะ
เคล็ดลับ! เลือกซื้อเผือกอย่างไร? ให้อร่อย
การที่เราจะกินเผือกให้อร่อยขึ้นมาได้นั้น สิ่งสำคัญอีกอย่างที่เราไม่ควรมองข้ามกันเลยนั่นคือ วิธีการเลือกซื้อ ซึ่งต้องบอกว่าเราอาจจะต้องทำการดูรายละเอียดต่าง ๆ ของเผือกกันให้มากขึ้น และพยายามเลือกซื้อผลที่ดูน่าอร่อยมากที่สุด ส่วนจะต้องเลือกอย่างไรกันบ้างนั้น มาดูกันเลยนะคะ
1. เลือกผลที่มีน้ำหนักกำลังพอดี
อย่างแรกที่เราอาจจะต้องทำการคำนึงถึงเลยคือ พยายามเลือกซื้อเผือกให้อยู่ในน้ำหนักที่กำลังพอดี ไม่ได้มีน้ำหนักที่เบา หรือว่าหนักจนเกินไป แต่ในทางกลับกันหากเราเลือกซื้อเผือกที่มีน้ำหนักค่อนข้างเบา สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้เราไม่ได้ลิ้มลองความอร่อยของเผือกได้สักเท่าไหร่
2. มีผิวเรียบ
สิ่งที่เราอาจจะต้องดูต่อมาเลยคือ ลักษณะของผิวเผือก ซึ่งหากอยากกินเผือกให้อร่อยมากขึ้นนั้น เราก็อาจจะต้องพยายามเลือกซื้อเผือกที่ค่อนข้างมีผิวเรียบ และมีหัวที่ค่อนข้างแน่น เพราะเมื่อไหร่เราเลือกซื้อเผือกไปโดยที่ไม่ได้ดูเรื่องนี้เลย ผลที่ตามมาก็อาจจะทำให้เผือกที่เราซื้อไปเกิดการเน่าเสีย หรือกินได้เพียงบางส่วนเท่านั้น
3. ไม่มีรอยยุบ
ใครที่อยากกินเผือกที่มีความสดใหม่ เราก็อาจจะต้องใช้มือกดหรือบีบบริเวณหัวเผือกดูว่ามีรอยยุบ หรือมีรอยบุบบริเวณที่เราใช้มือกดลงไปหรือเปล่า เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่มีรอยลักษณะนี้เกิดขึ้น สิ่งนี้ก็อาจจะกำลังบ่งบอกว่าเผือกที่เราซื้อไปไม่มีความสดใหม่ขึ้นมาได้
หลังจากที่เราได้พาคุณแม่มาทำความรู้จักกับเผือกกันมากขึ้นแล้ว ทำเอาใครหลายคนรู้สึกอึ้งกับคุณประโยชน์ของวัตถุดิบชนิดนี้ไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ เอาเป็นว่าใครที่ค่อนข้างเป็นกังวลใจในเรื่องอาหารการกิน และอยากที่จะกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ในช่วงตั้งท้องแล้วล่ะก็ ลองหันมากินเผือกกันให้มากขึ้นนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องกินสตอเบอรี่ได้ไหม ผลไม้มีประโยชน์ที่คุณแม่ต้องลอง!
คนท้องกินผักบุ้งได้ไหม ผักชนิดนี้มีคุณค่ามากกว่าที่คิด!