Posted on 05 Oct 2022
1628 views สวัสดีคุณแม่ทุกท่านนะคะ เดินทางมาเกือบครึ่งทางแล้ว ยังมีอะไรที่คุณแม่ต้องทำอีกมากมาย อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่คุณแม่ต้องเตรียมรับมืออีกด้วย วันนี้ Mama Story จะพาคุณแม่ไปเรียนรู้กันว่า ตั้งครรภ์ 17 สัปดาห์ ทารกในครรภ์มีพัฒนาการอย่างไร และคุณแม่จะต้องพบเจอการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง พร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
ท้อง 17 สัปดาห์เท่ากับกี่เดือน
ในช่วงสัปดาห์นี้ คุณแม่อาจกำลังสงสัยว่าท้อง 17 สัปดาห์เท่ากับกี่เดือน คำตอบคือ ตั้งครรภ์ 17 สัปดาห์เท่ากับท้อง 4 เดือนนะคะ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการตั้งครรภ์มักใช้เวลาประมาณ 40 สัปดาห์ หากคุณแม่คิดว่าหนึ่งเดือนเท่ากับสี่สัปดาห์ อาจแปลว่าเท่ากับ 10 เดือนนะคะ ยิ่งบางเดือนอาจมีมากกว่าสี่สัปดาห์ ก็อาจทำให้คุณแม่เกิดความสับสนได้ เป็นเหตุผลที่ทำไมคุณแม่ต้องติดตามการตั้งครรภ์แบบรายสัปดาห์มากกว่ารายเดือนนั่นเอง
ทารกในครรภ์อายุ 17 สัปดาห์ เป็นอย่างไรบ้าง
เมื่ออายุครรภ์ 17 สัปดาห์ ลูกน้อยจะมีขนาดเท่าผลทับทิมแล้วค่ะ โดยจะมีตัวอ่อนยาวประมาณ 11-12 เซนติเมตร และมีน้ำหนักราว 5.9 ออนซ์ ซึ่งในช่วงนี้รกจะมีขนาดใหญ่ขึ้น และมีหลอดเลือดเชื่อมต่อเพิ่มขึ้นมากมาย ทำให้คุณแม่มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นค่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่าทารกในครรภ์ 17 สัปดาห์ จะเป็นอย่างไรบ้าง
กระดูกเริ่มพัฒนา
สัปดาห์นี้กระดูกของลูกน้อยจะเริ่มพัฒนาจากกระดูกอ่อน เป็นกระดูกแข็งแรง คุณแม่สามารถรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมเพื่อช่วยบำรุงกระดูก และฟันของลูกในครรภ์ได้ นอกจากนี้ หากคุณแม่รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมบ่อย ๆ ก็จะช่วยป้องกันภาวะความดันโลหิตสูง และภาวะครรภ์เป็นพิษได้
สายสะดือแข็งแรงขึ้น
สายสะดือของลูกน้อยจะเริ่มแข็งแรง และหนาขึ้น ซึ่งเมื่อคุณแม่คลอดบุตรเสร็จสะดือจะมีความยาวประมาณ 9 นิ้ว และหนานิ้ว 1 โดยสายสะดือนี้ จะคอยทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนให้แก่ลูกน้อย ดูดซับสารอาหารจากกระแสเลือด และนำของเสียออกจากร่างกายของทารกในครรภ์
ผิวหนังหนาขึ้น
ช่วงนี้ผิวหนังของทารกจะเริ่มพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับต่อมเหงื่อ จนในสัปดาห์หน้า ชั้นผิวของลูกน้อยจะถูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์ คุณแม่จึงควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อช่วยให้ผิวของลูกน้อยแข็งแรง สุขภาพดี รวมไปถึงช่วยให้คุณแม่มีผิวที่แข็งแรงอีกด้วย
การเปลี่ยนแปลงของคุณแม่ตั้งครรภ์ 17 สัปดาห์ มีอะไรบ้าง
เข้าสู่ช่วงการตั้งครรภ์เดือนที่ 5 ซึ่งเป็นช่วงที่ใกล้ถึงครึ่งทางของการตั้งครรภ์แล้ว คุณแม่อาจมีอาการต่าง ๆ ซึ่งเกิดจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของลูกน้อยในครรภ์ เรามาดูกันดีกว่าว่าการเปลี่ยนแปลงของคุณแม่ตั้งครรภ์ 21 สัปดาห์ จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง
ฝันประหลาด
คุณแม่ในช่วง 17 สัปดาห์อาจมีฝันแปลก ๆ เวลานอน เนื่องจากระดับฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง และมีความเกี่ยวข้องกับระบบประสาท และความคาดหวังในการตั้งครรภ์ โดยคุณแม่อาจฝันไปต่าง ๆ นานา เช่น ฝันว่าแต่งงานกับเจ้านาย ฝันว่าคลอดลูกออกมาเป็นลิง เป็นต้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว อาการฝันประหลาดเหล่านี้จะไม่มีอะไรผิดปกตินะคะ แต่หากคุณแม่มีอาการนอนไม่หลับ ก็อาจลองปรึกษาหมอดูก็ได้
คันหน้าอก และท้อง
ยิ่งลูกในครรภ์เจริญเติบโตมากขึ้น ผิวของคุณแม่ก็จะยิ่งยืดขยายออก และบางลง ทำให้เกิดอาการคันระคายเคืองได้ง่าย โดยคุณแม่มักจะรู้สึกคันบริเวณหน้าอก และหน้าท้อง ให้พยายามหลีกเลี่ยงการเกานะคะ เพราะอาจทำให้เป็นแผลอักเสบได้ ทางที่ดีลองหาครีมที่ช่วยลดอาการคัน และบำรุงผิว ก็จะช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้ค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ผิวแตกลาย ท้องแตกลาย รับมืออย่างไรให้รอยหายจางลง?
ผิวแตกลาย
ในช่วงนี้คุณแม่จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวตัวเองอย่างชัดเจน โดยอาจเกิดรอยแตกลายที่มีสาเหตุมาจากน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น และมดลูกขยายตัวนั่นเอง ซึ่งรอยแตกเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ 17 สัปดาห์ โดยเฉพาะคุณแม่ที่อุ้มลูกแฝด ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำเยอะ ๆ และหาครีมทาผิวมาทาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น เพราะมิฉะนั้นแล้ว รอยแตกลายเหล่านี้จะปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน และยากที่จะรักษาให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม
มีตกขาว
เมื่อคุณแม่เข้าสู่ช่วงสัปดาห์ที่ 17 จะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงในระบบการไหลเวียนเลือดมากขึ้น เนื่องจากร่างกายต้องได้รับการดูแลถึง 2 ชีวิต อาจทำให้คุณแม่มีอาการตกขาวทางช่องคลอด และมีเหงื่อออกมามากกว่าปกติ นอกจากนี้ อาจรู้สึกเหนื่อยง่ายกว่าเดิม เพราะร่างกายเริ่มทำงานหนักมากขึ้น หากคุณแม่พบว่ามีเลือดออกจากช่องคลอด หรือมีตกขาวผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อเข้ารับการวินิจฉัยต่อไป
เคล็ดลับการดูแลตัวเองของคุณแม่ตั้งครรภ์ 17 สัปดาห์
การดูแลตัวเองเมื่อตั้งครรภ์ เป็นพื้นฐานที่คุณแม่ทุกท่านควรพึงปฏิบัติ เพื่อช่วยให้ร่างกาย และลูกน้อยแข็งแรง ปลอดภัย รวมถึงช่วยให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีอีกด้วย เราจึงได้รวบรวมเคล็ดลับการดูแลตัวเองของคุณแม่ตั้งครรภ์ 17 สัปดาห์มาฝากค่ะ มาดูกันว่าจะมีเคล็ดลับอะไรบ้าง
รับประทานอาหารแต่พอดี
หากทารกในครรภ์ได้รับสารอาหารทุกอย่างจากร่างกายของคุณแม่อย่างเพียงพอแล้ว และมีการเจริญเติบโตที่ดี คุณแม่ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณอาหารนะคะ ควรรับประทานอาหารแต่พอเหมาะ ดื่มน้ำสะอาด และไม่ควรรับประทานเยอะจนเกินไป เพราะอาจทำให้แน่นท้อง และไม่สบายตัวได้ ซึ่งเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์เข้าสู่เดือนที่ 6 อาจเพิ่มปริมาณแคลอรีอีก 200 แคลอรีต่อวัน ถึงเวลานั้นคุณแม่ก็สามารถเพิ่มปริมาณของอาหารได้ค่ะ
ออกกำลังกายเป็นประจำ
คุณแม่อย่าลืมออกกำลังกายทุกวันเป็นประจำนะคะ โดยอาจเต้นแอโรบิก เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ดีต่อหัวใจ และปอด อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ซึ่งในช่วงนี้คุณแม่สามารถออกกำลังกายได้ โดยเริ่มต้นจาก 15 นาที เป็น 30 นาที และควรออกกำลังกาย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ อาจเดิน วิ่ง โยคะ หรือเล่นพิลาทิสเพื่อช่วยออกกำลังกายได้ แต่คุณแม่อย่าลืมปรึกษากับแพทย์ก่อนออกกำลังกายนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : พิลาทิส ทางเลือกในการออกกำลังกายของแม่ท้องยุคใหม่
เสริมวิตามินดี
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับวิตามิน 10 มิลลิกรัมต่อสัปดาห์ เพื่อช่วยให้ลูกในครรภ์ได้รับวิตามินดีอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรก คุณแม่จำเป็นที่จะต้องดูแลตัวเองให้ดี และรับประทานวิตามินดีบ่อย ๆ เพื่อช่วยป้องกันความเสี่ยงกระดูกอ่อน และผลกระทบต่อพัฒนาการลูกน้อยในครรภ์
ไปพบทันตแพทย์
ในช่วงนี้คุณแม่อย่าลืมไปพบทันตแพทย์เพื่อสุขภาพช่องปากนะคะ เพราะเมื่อตั้งครรภ์ ฮอร์โมนอาจส่งผลกระทบต่อกระดูก และฟันของคุณแม่ได้ รวมถึงควรดูแลสุขภาพปาก และฟันเป็นพิเศษ พร้อมทั้งขอคำแนะนำในการดูแลช่องปากขณะตั้งครรภ์ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้คุณแม่มีฟันแข็ง และเหงือกที่แข็งแรงแล้วค่ะ
เมื่อเข้าสู่ช่วงท้อง 17 สัปดาห์ ลูกน้อยจะยังมีขนาดตัวที่เล็กมาก แต่ก็มีการพัฒนา และเจริญเติบโตอยู่เสมอ ดังนั้นคุณแม่จึงควรดูแลตัวเองเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน เพื่อให้ลูกในครรภ์แข็งแรง และสมบูรณ์ หากคุณแม่กำลังสงสัยว่าลูกน้อยจะมีพัฒนาการต่อไปอย่างไร สามารถติดตามเรื่องราวของการตั้งครรภ์ในแต่ละสัปดาห์เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของเรา หรือเลือกบทความเกี่ยวกับเรื่องตั้งครรภ์ในสัปดาห์ถัดไป และสัปดาห์ก่อนหน้าได้ที่ด้านล่างนี้เลยนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เรียนรู้ครรภ์ 16 สัปดาห์ พัฒนาการทารกที่ก้าวกระโดดกว่าที่คิด
ตั้งครรภ์ 19 สัปดาห์ พัฒนาการทารกในครรภ์ ไตรมาสที่ 2
