คนท้องกินน้ำกระเจี๊ยบได้ไหม เครื่องดื่มอร่อยที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม!

เมนูน้ำกระเจี๊ยบ น่าจะเป็นหนึ่งในเมนูที่คุณแม่หลายคนค่อนข้างชื่นชอบอยู่เหมือนกัน ด้วยรสชาติที่อร่อย มีความหวานอมเปรี้ยวนิด ๆ ทำเอาปฏิเสธ 

 1616 views

เมนูน้ำกระเจี๊ยบ น่าจะเป็นหนึ่งในเมนูที่คุณแม่หลายคนค่อนข้างชื่นชอบอยู่เหมือนกัน ด้วยรสชาติที่อร่อย มีความหวานอมเปรี้ยวนิด ๆ ทำเอาปฏิเสธไม่ได้เลยล่ะค่ะว่าอร่อยมาก สำหรับคุณแม่ตั้งท้องที่กำลังสงสัยว่าหากเรากำลังมีเจ้าตัวเล็กอยู่ เราสามารถที่จะกินน้ำกระเจี๊ยบได้ตามปกติหรือเปล่า หรือหากกินเข้าไปแล้วนั้น สิ่งนี้ส่งผลอย่างไรต่อเราและลูกในท้อง เอาเป็นว่าเรามาทำความรู้จักกับ คนท้องกินน้ำเจี๊ยบได้ไหม ไปพร้อมกันเลยนะคะ



แม่ต้องรู้! คนท้องสามารถกินน้ำกระเจี๊ยบได้ไหม

หากใครที่กำลังสงสัยสิ่งนี้อยู่แล้วล่ะก็ ต้องบอกเลยนะคะว่าคนท้องสามารถกินน้ำกระเจี๊ยบได้นะคะ โดยการกินนั้นเราอาจจะต้องกินในปริมาณที่เหมาะสม และไม่ควรเป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติหวานจนเกินไป เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้คุณแม่เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานได้เลย เอาเป็นว่าสามารถกินได้นะคะ เพราะเครื่องดื่มนี้ค่อนข้างที่จะมีประโยชน์และส่งผลดีต่อร่างกายไม่แพ้เครื่องดื่มอื่น ๆ เลย



น้ำกระเจี๊ยบส่งผลดีในเรื่องไหนบ้าง?

คุณแม่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบใช่ไหมคะว่าการที่เรากินน้ำกระเจี๊ยบเข้าไปนั้น เครื่องดื่มเหล่านี้ส่งผลดีต่อร่างกายของเราในเรื่องไหนบ้าง บอกเลยนะคะว่าเป็นเครื่องดื่มที่เราคุ้นเคย และเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์มาก ๆ เลยล่ะค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินน้ำมะเขือเทศได้ไหม เป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์หรือไม่? มาดูกัน



คนท้องกินน้ำเจี๊ยบได้ไหม


1. ช่วยบำรุงร่างกาย

คุณประโยชน์แรกที่เห็นได้ชัดเลยคือ ช่วยบำรุงระบบต่าง ๆ ในร่างกายได้เป็นอย่างดี และต้องบอกว่าน้ำกระเจี๊ยบไม่ได้ส่งผลดีเพียงแค่กับคุณแม่ที่กำลังตั้งท้องเพียงเท่านั้น แต่น้ำกระเจี๊ยบยังเต็มเปี่ยมไปด้วยสารเพคตินที่ช่วยในเรื่องของการสมานแผลได้ดีมาก ๆ อีกด้วย เพราะฉะนั้นคุณแม่คนไหนที่พึ่งคลอดลูกมาใหม่ ๆ เราก็อาจจะลองดื่มน้ำกระเจี๊ยบร่วมด้วยได้เลยนะคะ



2. ช่วยทำให้ผิวเปล่งปลั่ง

เชื่อหรือไม่คะว่า น้ำกระเจี๊ยบยังส่งผลในเรื่องของผิวให้กับคุณแม่ได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นหากคุณแม่คนไหนที่มีปัญหาในเรื่องของผิว และอยากที่จะให้ผิวของเรากลับมาสวยเปล่งปลั่งเหมือนเดิม เราก็อาจจะเลือกกินน้ำกระเจี๊ยบในระหว่างการตั้งครรภ์ได้ และไม่ใช่เรื่องผิวเพียงเท่านั้น น้ำกระเจี๊ยบยังช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย พูดได้เลยว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์มาก ๆ เลย



3. ช่วยให้ผิวดูชุ่มชื้น

อย่างที่รู้กันดีค่ะว่าในช่วงของการตั้งครรภ์ฮอร์โมนในร่างกายของเราก็จะเริ่มเปลี่ยนแปลงไป จนบางครั้งก็อาจจะทำให้ผิวของคุณแม่เริ่มแห้ง หรือดูไม่ชุ่มชื้นขึ้นมาได้ เอาเป็นว่าหากเมื่อไหร่ที่คุณแม่กำลังรู้สึกว่าผิวของเราเริ่มมีการหมองคล้ำขึ้นมา การที่เราเลือกดื่มน้ำกระเจี๊ยบ สิ่งเหล่านี้ก็ค่อนข้างที่จะช่วยทำให้ผิวของคุณแม่กลับมามีความชุ่มชื้นอีกครั้งได้อย่างแน่นอน



4. ช่วยป้องกันอาการท้องอืด

หากเมื่อไหร่ที่คุณแม่เริ่มรู้สึกมีอาการท้องอืดขึ้นมา สิ่งที่จะช่วยบรรเทาอาการท้องอืดให้กับคุณแม่ได้ดีอีกอย่างเลยก็คือการดื่มน้ำกระเจี๊ยบ เพราะเมื่อไหร่ที่คุณแม่ดื่มน้ำกระเจี๊ยบเข้าไปแล้วนั้น สิ่งนี้จะเข้าไปช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารของคุณแม่ให้มีระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าน้ำกระเจี๊ยบเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ไม่ควรมองข้ามเลยล่ะค่ะ



5. ช่วยลดอาการกรดไหลย้อน

เมื่อไหร่ที่คุณแม่รู้สึกว่าตัวเองมีอาการกรดไหลย้อนขึ้นมา เราก็อาจจะทำการต้มกระเจี๊ยบผสมกับน้ำเกลือได้เลย ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยทำให้อาการกรดไหลย้อนของเราดีขึ้นมาก ๆ เลยทีเดียว หากใครที่อยากหายจากการเป็นกรดไหลย้อน อย่าลืมกินน้ำกระเจี๊ยบผสมกับเกลือลองดูนะคะ



6. ช่วยควบคุมระดับของน้ำตาล

เชื่อหรือไม่คะว่าการที่คุณแม่เลือกกินน้ำกระเจี๊ยบเป็นประจำทุกวัน สิ่งนี้จะเข้าไปช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้กับคุณแม่ได้ดีมาก ๆ เลย เพราะภายในตัวกระเจี๊ยบจะมีไฟเบอร์ที่จะเข้าไปลดการดูดซึมไม่ให้ร่างกายได้รับน้ำตาลมากจนเกินไป สำหรับใครที่กลัวจะเป็นโรคเบาหวานในช่วงตั้งครรภ์ เราก็อาจจะเลือกกินน้ำกระเจี๊ยบแทนเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ ได้เลยนะคะ



7. มีโฟเลตค่อนข้างสูง

นอกจากนี้ในน้ำกระเจี๊ยบยังมีสารอาหารที่สำคัญอย่างโฟเลตที่จะเข้าไปช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดแดงของเราได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญไปกว่านั้นเลยคือ สารอาหารตัวนี้ยังช่วยป้องกันไม่ให้ทารกในครรภ์ของเราพิการตั้งแต่กำเนิดตามไปด้วย เพราะฉะนั้นหากคุณแม่ที่กำลังมองหาเครื่องดื่มที่ค่อนข้างมีประโยชน์ต่อลูกน้อยในท้อง เราอาจจะต้องหันมากินน้ำกระเจี๊ยบกันบ้างนะคะ



สิ่งที่ควรระวังในการกินกระเจี๊ยบคืออะไร

กระเจี๊ยบเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกายก็จริง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราไม่ได้รู้สิ่งที่ควรระวังการกินน้ำกระเจี๊ยบ สิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลไม่ดี หรือมีผลกระทบในเรื่องต่าง ๆ ตามมาได้ ส่วนเราจะต้องมีข้อระวังในการกินกระเจี๊ยบอย่างไรบ้าง มาดูกันเลยนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : แม่ต้องรู้! อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง สำหรับคนท้อง มีอะไรบ้าง?


คนท้องกินน้ำเจี๊ยบได้ไหม


1. ทำให้ท้องเสีย

การที่คุณแม่เผลอกินกระเจี๊ยบเข้าไปในปริมาณที่มากจนเกินไป หรือกินกระเจี๊ยบในทุกวันสิ่งนี้ก็อาจจะทำให้คุณแม่บางคนมีอาการท้องเสียขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นในขณะที่คุณแม่กินน้ำกระเจี๊ยบเข้าไปแล้วนั้น เราอาจจะต้องคอยสังเกตอาการของตัวเองด้วยค่ะว่ามีอาการอะไรเกิดขึ้นไหม เพื่อที่เราจะได้ไม่มีอาการท้องเสียเกิดขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องท้องเสีย อันตรายไหม? แม่ท้องท้องเสียกินยาอะไรได้บ้าง?



2. มีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะ

นอกจากนี้น้ำกระเจี๊ยบยังมีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะ เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่คุณแม่ดื่ม เราควรไม่ควรที่จะเลือกดื่มในปริมาณที่เข้มข้นจนเกินไป และไม่ควรที่จะกินติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ อย่างที่รู้กันดีค่ะว่าถึงแม้น้ำกระเจี๊ยบจะเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์ต่อแม่ท้องก็จริง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณแม่เผลอกินเข้าไปแล้ว สิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลไม่ดีตามมาได้เลย



3. ไม่ควรกินน้ำกระเจี๊ยบที่นานมาแล้ว

สิ่งที่เราอาจจะต้องระวังในเรื่องต่อมาเลยคือ เราไม่ควรที่จะกินน้ำกระเจี๊ยบที่ทำไว้ หรือปล่อยเวลาผ่านมานานแล้ว เพราะการที่เราทำน้ำกระเจี๊ยบไว้และปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน ๆ สิ่งนี้จะทำให้น้ำกระเจี๊ยบที่เรากินเข้าไปหมดอายุได้เลย ทางที่ดีเราอาจจะต้องเลือกกินน้ำกระเจี๊ยบที่ทำใหม่ ๆ จะดีกว่า เพื่อป้องกันสิ่งตกค้างหรือป้องกันสิ่งต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดจากการเจือปนได้นะคะ


คนท้องกินน้ำเจี๊ยบได้ไหม


คนท้องกินน้ำกระเจี๊ยบได้ไหม ขอบอกเลยนะคะว่าสามารถกินได้เลยค่ะ โดยเราอาจจะต้องดูสิ่งที่ควรระวังกันให้มากขึ้น เพื่อที่คุณแม่จะได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ก็จะได้ส่งผลดีต่อลูกในท้องของเราไปด้วย หากคุณแม่คนไหนที่กำลังลังเลอยู่ในตอนนี้ อย่าลืมเข้ามาดูรายละเอียด คนท้องกินน้ำเจี๊ยบได้ไหม กันดูก่อนนะคะ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

คนท้องกินอัลมอนด์ได้ไหม กินแล้วดียังไง? ส่งผลดีต่อลูกในท้องได้หรือเปล่า

แม่ท้องสายปลาดิบต้องรู้ ! คนท้องกินแซลมอนดิบได้ไหม ดีต่อร่างกายหรือเปล่า ?

คนท้องกินกระชายได้ไหม กินแล้วจะเป็นอย่างไรต่อลูกในท้อง! มาไขข้อสงสัยกันเลย

ที่มา : 1, 2